ศบค. เผยไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 18,417 ราย หายป่วยเพิ่ม 21,186 ราย ผู้เสียชีวิตยังพบหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ เหตุมีความเสี่ยงสูงดับถึง 2.5 เท่า กทม.ยังติดเชื้ออันดับ 1 ถึง 4,139 ราย จับตาสมุทรปราการพุ่งสูง รวมถึงฉะเชิงเทรา นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,417 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 18,271 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย สะสม 1,102,368 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 21,186 ราย สะสม 903,015 ราย กำลังรักษาอยู่ 189,268 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 27,691 ราย และโรงพยาบาลสนาม 161,577 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 5,189 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,096 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 297 ราย รวมเสียชีวิต 10,085 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 18,417 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15,593 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 2,308 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 10 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 297 ราย ชาย 151 ราย หญิง 146 ราย เป็นชาวไทย 291 เมียนมา 5 ราย จีน 1 ราย อายุค่ากลาง 68 ปี อายุน้อยสุด 17 ปี อายุมากสุด 104 ปี
แบ่งเป็น กทม. 99 ราย สมุทรปราการ 41 ราย พระนครศรีอยุธยา 16 ราย สมุทรสาคร 15 ราย ชลบุรี 11 ราย ปทุมธานี 10 ราย ปัตตานี สมุทรสงคราม จังหวัดละ 7 ราย นครปฐม ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา ระยอง จังหวัดละ 6 ราย ตาก ปราจีนบุรี จังหวัดละ 5 ราย ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ นครนายก จังหวัดละ 4 รายกาญจนบุรี ราชบุรี อ่างทอง จังหวัดละ 3 ราย นนทบุรี พัทลุง ชุมพร นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร เพชรบูรณ์ จันทบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย นครศรีธรรมราช ยะลา ระนอง สุราษฎร์ธานี บึงกาฬ หนองบัวลำภู หนองคาย ศรีสะเกษ ชัยภูมิ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท สุโขทัย อุตรดิตถ์ ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 25 ราย ตั้งครรภ์ 1 ราย กทม. เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย ปทุมธานี ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อคนรู้จัก คนในครอบครัว
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตบางส่วนจะเป็นยอดที่ค้างมาจากวันก่อนหน้า เนื่องจากผู้เสียชีวิตบางราย เสียชีวิตโดยไม่ทราบว่าตนเองป่วยโควิด-19 ทำให้ต้องรอการตรวจซ้ำบางครั้งมีการรอผลการชันสูตร ทำให้มียอดค้าง โดยจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการแจ้งยอดในจุดนี้
สำหรับผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศวันนี้พบลักลอบเข้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติจากมาเลเซีย 1 ราย เมียนมา 1 ราย
จำนวนผู้ได้การฉีดวัคซีนฉีดแล้ว 28 ล้านโดส โดยพว่าหญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง 2.5เท่า ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มารับการฉีดยังคงน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยเพิ่งได้เพียง 5.5% ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ สามารถรับวัคซีนได้ และมีความปลอดภัย จึงขอเชิญชวนคุณแม่เข้ารับวัคซีน และสามารถส่งต่อภูมิคุ้มกันสู่บุตรในครรภ์ได้
แนวโน้มจำนวนการพบผู้ป่วยรายใหม่ ยังทรง ๆ ลดลงเล็กน้อย ยังวางใจไม่ได้ ขอให้รักษามาตรการป้องกันต่อเนื่อง ในบางจังหวัดมีการพบผู้ติดเชื้อทรง/ลดลง แต่อัตราการเสียชีวิตยังสูง ในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นยอดผู้ป่วยที่ส่งตัวกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ฝากจังหวัดปลายทางคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ๆ ต่าง ๆ เพื่อป้องกันระบาด งดการรวมกลุ่ม รวมตัว สังสรรค์ต่างๆ ซึ่งพรุ่งนี้ จะมีการประชุมศบค.ชุดเล็กทบทวนมาตรการการผ่อนคลายต่างๆ และจะนำเสนอไปยัง ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป
ทางศปม. รายงานความร่วมมือในของจนท. ตร. ทหาร ในการ ระดมกำลังพล เครื่องมือ ในการดำเนินการรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งรพ.ทหาร – รพ.สนามต่างๆ, ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 25 ส.ค. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 4,139 ราย 2. สมุทรปราการ 2,237 ราย 3. สมุทรสาคร 1,132 ราย 4. ชลบุรี 974 ราย 5. ฉะเชิงเทรา 575 ราย 6. นครปฐม 506 ราย 7. ราชบุรี 498 ราย 8. นครราชสีมา 482 ราย 9. บุรีรัมย์ 445 ราย 10. กาญจนบุรี 392 ราย
ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 1,073,505 ราย หายป่วยสะสม 875,589 ราย เสียชีวิตสะสม 9,991 ราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 213,999,186 ราย อาการรุนแรง 112,928 ราย รักษาหายแล้ว 191,485,881 ราย เสียชีวิต 4,465,417 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 38,968,925 ราย
2. อินเดีย จำนวน 32,511,370 ราย
3. บราซิล จำนวน 20,615,008 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 6,785,374 ราย
5. ฝรั่งเศส จำนวน 6,649,630 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 32 จำนวน 1,102,368 ราย
