พระต่างถิ่น นำพระพุทธรูปมาตั้งขวางแนวกันไฟในป่า อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เจาะบ่อบาดาล ตั้งแท็งก์น้ำ ติดป้ายจับจองสร้างเป็นสำนักวิปัสสนา อ้างทหารอนุญาต ปลัดฯ ต้องแจ้งให้ย้ายออกไป พบยังไม่มีการแผ้วถางบุกรุกป่า
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.พ.64 นายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.สวนผึ้ง พร้อม ร.ท.เกษม คารมาตร จนท.ตรวจสอบที่ดินราชพัสดุ นายสุรินทร์ อุทัยนา จนท.หน่วยป้องกันรักษาที่ รบ.2(บ่อหวี) ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง นายดำรงค์ ทองชัย กำนันตำบลสวนผึ้ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านทุ่งแฝก และนายจันทรา บุญเลิศ ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) อ.สวนผึ้ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณรอยต่อ หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง บ้านทุ่งแฝก (ทุ่งไม้แดง) และ หมู่ 2 ต.ตะนาวศรี บ้านท่ามะขาม (วังจรเข้) อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ นายจันทรา บุญเลิศ ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) อ.สวนผึ้ง พร้อมชาวบ้านและจิตอาสาป้องกันไฟป่าของหมู่บ้าน ได้ร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางแนวกันไฟป่า และใช้เป็นเส้นทางในการลาดตระเวนและควบคุมป้องกันไฟป่าทุกปี แต่เส้นทางถูกปิดกั้น โดยมีการนำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์มาปิดกั้นเส้นทาง พร้อมมีการตั้งเสาและปักป้าย “สำนักวิปัสสนา ทศพลญาณมังคลาราม” รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นป่าอยู่ในเขตราชพัสดุ และเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์
จากการตรวจสอบ พบพระภิกษุได้ขนย้ายสิ่งของ รวมถึงรูปปั้นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มาตั้งปิดทางแนวกันไฟ พร้อมมีการเจาะบ่อบาดาล ตั้งแท็งก์น้ำ 2 แท็งก์ และมีการนำเครื่องปั่นไฟมาไว้ เพื่อเตรียมเปิดเป็นสำนักปฏิบัติธรรม
พระภิกษุกำธร บุญประกอบ อายุ 37 ปี จำพรรษาอยู่ที่วัด สิทธิสังฆาราม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ข้อมูลว่า ได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้มาพำนักอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เพื่อจัดสร้างเป็นสถานที่ภาวนาปฏิบัติธรรม โดยได้ติดต่อกับทางหัวหน้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.สวนผึ้ง เพื่อนำพาเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ พร้อมได้ให้เบอร์ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงได้ติดต่อไปยังเบอร์ดังกล่าว และทราบว่าเป็นเบอร์ของ พระครูปลัดธนกร กตปุญโญ จำพรรษาอยู่สำนักสงฆ์ห้วยผาก
พระครูปลัดธนกร กตปุญโญ กล่าวว่า จุดที่มีการนำปักป้าย “สำนักวิปัสสนา ทศพลญาณมังคลาราม” เป็นพื้นที่ราชพัสดุ โดยเจ้าของพื้นที่ถือใบ ภ.บ.ท.5 มอบให้สร้าง เพื่อบำรุงพื้นที่ป่า และป้องกันคนบุกรุกป่า ขณะนี้ได้ใช้ชื่อลูกชายของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ทำเรื่องขอเช่ากับทางธนารักษ์ราชบุรี ซึ่งอ้างว่า ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานทหาร ให้ใช้พื้นที่ 7 ไร่ และขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อจัดตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม
จากการตรวจสอบ พบพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เช่า แต่มีการขนย้ายสิ่งของเข้ามา และยังมีการขุดเจาะบ่อบาดาล โดยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตจากสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 8 และจากการตรวจสอบผู้ถือครองพื้นที่ ภ.บ.ท.5 ยังไม่มีความแน่ชัดว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ เนื่องจากใบที่นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ มีเพียงใบชำระภาษีดอกหญ้า หรือภาษีบำรุงท้องที่เมื่อนานมากแล้ว
ส่วนเหตุผลของการจัดตั้งสถานปฏิบัติธรรม เนื่องจากผู้ที่ทำเรื่องขอเช่าพื้นที่ให้พระภิกษุสงฆ์มาปฏิบัติธรรม เพื่อทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ ซึ่งย้อนแย้งกับความเป็นจริง เพราะการสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในป่ามักจะต้องทำลายป่าเดิมเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมาแทน
นายสุรินทร์ อุทัยนา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาที่ รบ.2(บ่อหวี) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการถางป่า หรือทำให้เกิดความสูญเสียกับพื้นที่ป่า เพียงแต่นำสิ่งของมาตั้งไว้เพื่อจับจองพื้นที่ จึงให้ดำเนินการขนย้ายสิ่งของทั้งหมดออกไปทันทีภายในวันนี้
ขณะที่ นายศุภสิทธิ์ ถีราวุฒิ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.สวนผึ้ง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวถือว่ายังไม่มีการบุกรุกและทำลายป่า มีเพียงการนำพระพุทรูปและข้าวของมาตั้งจับจองพื้นที่เท่านั้น ส่วนการเจาะบ่อบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตนจะดำเนินการส่งเรื่องให้ทางสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลภาค 8 เข้ามาตรวจสอบต่อไป
“วันนี้จะให้ผู้บุกรุกป่า นำสิ่งของทั้งหมดออกไปจากพื้นที่ เพราะยังไม่มีความชัดเจนในการขออนุญาตอย่างถูกต้องในเรื่องต่างๆ ทั้งหมด เพื่อความสบายใจของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้” ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.สวนผึ้ง กล่าว