เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ส.ค.65 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดราชบุรี พ.ต.อ. ธานินทร์ ฉัตรเจริญพงศ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมทีมชุดสืบสวนสอบสวน พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมพร้อมมอบนโยบายให้กับทางตำรวจเพื่อเร่งรัดคดที่เกิดในพื้นที่ราชบุรี ทั้งคดีคนร้ายบุกชิงทองในห้างบิ๊กซี สาขา อ.บ้านโป่ง พื้นที่สภ.บ้านโป่ง เมื่อวันที่ 11 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ยังจับคนร้ายไม่ได้ เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในผับโรงเหล้าเพชรเกษม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 18 ส.ค.65 ที่ผ่านมา และล่าสุดคดีตำรวจหญิงทำร้ายทหารหญิง ที่มารับใช้จนได้รับบาดเจ็บ
ภายหลังเสร็จการประชุม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชลได้นำเสนอข่าวคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดราชบุรี โดยท่านสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการลงมายังตำรวจภูธรภาค 7 เร่งรัดติดตามผู้ก่อเหตุ ทั้งหมดทุกคดีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีที่กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุยิงกันในสถานบันเทิงที่ผ่านมา ตนได้สั่งการทางรองผู้บัญชาการ ตร.ภาค 7 และ ผู้บังคับการ ตำรวจ จ.ราชบุรี ร่วมกันดำเนินการทั้ง บก.สืบสวนภาค และสืบสวนจังหวัด ตำรวจภูธรราชบุรี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และออกหมายจับ ขณะนี้ชุดสืบสวนเรากำลังล่าอีก 1 รายคดีนั่นไม่มีปัญหา แต่สิ่งสำคัญที่สุดจะทำอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว
เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้ ผู้บังคับการฯ ทุกจังหวัด โดยเฉพาะราชบุรียกระดับในการป้องกัน และมีการเรียกประชุมผู้ประกอบการให้ดำเนินการตามกฎหมาย การห้ามพกพาอาวุธปืน ยาเสพติด และเด็ก-เยาวชนห้ามเข้าไปเที่ยวโดยเด็จขาด ขณะนี้ได้ประสานทางฝ่ายปกครอง หรือ นายทะเบียน หรือ ท่านผู้ว่าฯ ทราบว่าผู้ว่าฯ ได้ปิดสถานบริการแห่งนั้นเป็นเวลา 60 วัน แล้วก็จะเสนอปิดตามกฎหมายต่อไป ตนได้สั่งกำชับชัดเจนว่า “ ต่อไปต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ” และเรียนยืนยันเลยว่าที่สื่อลงว่ามีผู้มีอิทธิพล หรือ นักการเมืองท้องถิ่น ไม่มี ในพื้นที่ ภาค 7 จะไม่มีผู้มีอิทธิพล ตนเรียนยืนยันว่า เรามีชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างอยู่แล้ว ขณะนี้ตนมีข้อมูล ตนเรียนยืนยันมีแต่พวกกะเลวการาด พวกสร้างปัญหา ให้สังคมพวกนี้ เราต้องหาที่อยู่ให้ คือต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เรื่องที่ 2 ที่สื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่ว่ามีตำรวจและทำร้ายน้องผู้หญิงผู้เสียหาย เรื่องนี้ตนได้ประชุมเร่งรัดคดีนี้เนื่องจากว่าประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ตลอดจนเป็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู หลายเรื่องโดยเฉพาะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ตนเรียนยืนยันไม่จำเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และเราจะคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายโดยเร็ว และก็ขอเรียนทางผู้เสียหายและผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ด้วยว่า เรื่องนี้สิ่งแรกคือ เราขอแสดงความเสียใจที่ลูกถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ให้สอบปากคำผู้เสียหายโดยระเอียด และแพทย์ชันสูตรเรียบร้อย รอผลการตรวจของแพทย์ และเราจะได้เร่งรัดดำเนินการตรงหมาย “
ตนได้สั่งให้พนักงานสอบสวนได้รับคดี ถ้าพยานหลักฐานชัดเจนวันนี้ ตนสั่งให้ออกหมายจับเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด ตัวละครที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้กำลังให้สวบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่าผู้ก่อเหตุมีคนเดียวหรือหลายคน คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เป็นประเด็นที่น้องผู้หญิงเขาถูกทำร้าย ซึ่งในสังคมไทยเราไม่ควรมีเกิดขึ้นในลักษณะอย่างนี้ อย่างไรก็ตามเราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” ไม่ใช่ว่าจะเป็นตำรวจแล้วเราจะช่วยเหลือกันไม่มี ตนยืนยันตนได้สั่งการผู้การจังหวัดและสั่งการทีมพนักงานสอบสวนทำอย่างตรงไปตรงมาและทำปราศจากข้อสงสัยของสื่อมวลและพี่น้องประชาชนและผู้เสียหายในเรื่องนี้
ในส่วนประเด็นเรื่องที่ประชาชนมีความกังวลว่าตำรวจล่าช้า ตัวผู้ก่อเหตุอาจจะไม่อยู่ในพื้นที่ หรือ หลบหนี เรื่องนี้ ตนได้ให้ทีมสืบสวน สืบภาค สืบโรงพัก เรามียุทธวิธีของเรา ไม่ต้องห่วง ขณะนี้ ส.ต.ท.หญิง นุช ยังรับราชการอยู่ อย่างไรก็ตามเราประสานกับทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้
ส่วนเรื่องที่ประชาชนในพื้นที่ต่างมีความเกรงกลัว ผู้หญิงคนนี้มาก ไม่กล้าพูด เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพล เรื่องนี้ตน ต้องขอบอกได้ว่าเขาไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล เป็นข้าราชการตำรวจ เป็นน้องผู้หญิงธรรมดา ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ แต่อาจจะเป็นคนรู้จักกันมากกว่า เพราะว่าน้องเขาอยู่ในพื้นที่ และอาจจะมีไปมาหาสู่กัน คำว่าเกรงกลัวผู้มีอิทธิไม่น่ามี วันนี้ตนจะให้ทาง พ.ต.อ. ธานินทร์ ฉัตรเจริญพงศ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เข้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่และก็ให้กำลังใจและไปสร้างความมั่นใจให้เขาว่าวันนี้ตนลงมาเอง และมอบหมายผู้บังคับการ ตร.จังหวัด ได้เข้าไปเยี่ยมด้วยตนเอง และสร้างความมั่นใจ ไปเยี่ยมพ่อแม่ และประชาชนในพื้นที่ เรียนกับประชาชนเลยว่า ท่านไม่ต้องเกรงกลัว ไม่ต้องหวั่นไหว ไม่ต้องเกรงกลัวผู้มีอิทธิพลใดๆ ทางตำรวจยินดีที่จะดูและท่าน 24 ชม.
คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ขอเวลาในการทำสำนวน และต้องทำอย่างรัดกุมรอบคอบ โดยเฉพาะคดีนี้ทางน้องๆก็ดี หรือทางผู้เสียหายและทางสังคมจับตามอง เราทำอย่างตรงไปตรงมา คดีนี้ตนต้องเรียนว่าไม่มีอะไรที่ซับซ้อน แต่ว่าตนสั่งพนักงานสอบสวน และ ผู้บังคับการจังหวัด ต้องทำให้เร็ว เพื่อตอบโจทก์ทางสังคมให้ได้ว่า คดีนี้ทำไมตำรวจช้าจัง ไม่มีคำว่าล่าช้า วันนี้ตนลงมาเพื่อเร่งรัดคดีนี้ เพื่อให้ดำเนินการคดีโดยเร็วเชื่อว่าวันนี้ พรุ่งนี้คดีจะคลี่คลาย ยืนยันไม่ใช้ผู้มีอิทธิพลอย่างแน่นอน
ขณะที่วันนี้เมื่อเวลา 19.30 น. น้องเอ อดีตทหารหญิง ผู้เสียหายได้เดินทางมาพร้อมด้วยครอบครัว มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยได้เดินทางขึ้นไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องประชุม พบหลายหน่วยงาน อาทิ ผู้แทนสำนักอัยการจังหวัดราชบุรี ผู้แทนยุทธ์ติธรรมจังหวัดราชบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนแสงงานจังหวัด ผู้แทนบ้านพักเด็กและสตรี จ.ราชบุรี ฝ่ายปกครอง อำเภอเมืองราชบุรี มาร่วมกันประชุมหาการช่วยเหลือ พร้อมดูและความปลอดภัยให้น้องเอ จนเสร็จสิ้นคดี และเน่งคืนความเป็นธรรมโดยเร็ว
ด้านนายธีรวุฒิ สิริรัตน์ อายุ 37 ปี พี่ชาย เล่าว่า ตนรู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าน้องสาวจะถูกกระทำอย่างทารุณโหดเหี้ยมอย่างนี้ ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่าน้องติดทหาร ตนก็ดีใจที่น้องได้งานดี แต่มาทราบทีหลังว่าออกจากทหาร แล้ว และมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งแรกที่น้องทักมาพูดคุยไม่คิดว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย แต่เมื่อเห็นตัวจริงพบว่าตามร่างกายมีแต่บาดแผลไปทั่ว คิดว่าน้องน่าจะเจ็บน่าดู หลังจากนี้ขอให้เป็นเรื่องอขงกฎหมาย ที่อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่