จับไม่หมด แรงงานเถื่อนทะลักชายแดนสังขละบุรี ทหาร ฉก.ลาดหญ้า จับ 33 แรงงานเมียนมา เดินเท้าผ่านช่องทางธรรมขาติเข้าไทย รอนายหน้าขนเข้าทำงานที่ กทม. นนทบุรี ราชบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 6 มี.ค.64 พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ร.19 ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวความมั่นคงชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี ว่ามีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใช้เส้นทางลำลองเดินลัดเลาะชายป่าลักลอบข้ามแดนโดยใช้เส้นทางธรรมชาติหินสามก้อน บ้านซองกาเรีย หมู่ 8 ต.หนองลู โดยขบวนการค้าแรงงานเถื่อนจะมีนายหน้านัดหมายแรงงานเพื่อนำรถไปรับนำไปส่งทำงานในพื้นที่สมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียง
หลังรับแจ้งข่าว พ.อ.สิทธิพร สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พร้อม ร.ท.ศุภกฤต ทรัพย์เจริญ ผบ.มว.ลว.ที่3 นำกำลัง ทหารชุดปฏิบัติการลาดตะเวนเฉพาะกิจลาดหญ้า (มว.ลว.ที่ 3) กับ ทหารชุดกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว (คร.) กองกำลังสุรสีห์ พร้อม ทหาร บก.ควบคุมส่วนลาดตระเวน ทหารชุดประสานการข่าว กกล.สุรสีห์ ร่วมกับ ร้อย ตชด.ที่ 134 (สังขละบุรี) ตม.สังขละบุรี ตร.สภ.สังขละบุรี และ อส.อำเภอสังขละบุรี ร่วมลงพื้นที่ลาดตะเวนในพื้นที่ป่าแนวตะเข็บชายแดนเส้นทางถนนสายบ้านเจดีย์สามองค์-สังขละบุรี และบริเวณเส้นทางธรรมชาติใกล้ท่าเรือท่าแพหินสามก้อน ริมขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บ้านซองกาเรีย หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ต่อมาเวลา 23.45 น. พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า และ ร.ท.ศุภกฤต ทรัพย์เจริญ ผบ.มว.ลว.ที่ 3 นำกำลังผสม เข้าโอบล้อมพื้นที่ป่าในหุบเขาหินสามกอง ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 33 คน บริเวณเส้นทางธรรมชาติใกล้ท่าเรือหินสามก้อน พบว่ามีแรงงานต่างด้าวนอนหลบอยู่ในหุบเขาจึงทำการแสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจสอบพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 33 คน เชื้อชาติมอญ 7 คน กะเหรี่ยง 14 คน เมียนมา 3 คน และโรฮีนจา 9 คน
โดย พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ร.19 / ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เปิดเผยว่า หลังการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการซักถามผู้ต้องหาที่พูดไทยได้ให้การว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้ง 33 คน ติดต่อนายหน้าฝั่งเมียนมาผ่านทางโทรศัพท์ ไม่ทราบชื่อนายหน้า และนัดรวมตัวกันที่ อ.พญาตองซู ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. และช่วงเช้าวันนี้มีผู้นำพาชาวเมียนมา สัญชาติเมียนมา ไม่ทราบชื่อ จำนวน 4 คน นำเดินเข้ามาฝั่งไทย ใช้การเดินเท้าเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเก่าข้างวัดพิมละม่อม จากนั้นใช้เส้นทางตามหุบเขาจนมาถึงห้วยซองกาเรีย และข้ามห้วยน้ำซองกาเรียเดินต่อมาจนถึงบริเวณที่ถูกจับกุม เวลาประมาน 16.00 น.ของวันที่ 5 มี.ค.
พ.อ.สิทธิพร กล่าวต่อว่า ต่อจากนั้นผู้นำพาแจ้งกับกลุ่มแรงงานว่าให้พักรอ และจะกลับมาโดยจะมีรถยนต์มารับ โดยปลายทางจะไปที่ กทม. นนทบุรี ราชบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร โดยแต่ละคนไม่ทราบว่าตนจะไปทำงานอะไรและใครเป็นนายจ้าง แต่ทราบเพียงจังหวัดที่จะไปทำงาน เพราะนายหน้าฝั่งเมียนมาได้แจ้งไว้ เมื่อไปถึงปลายทางจะต้องเสียค่าจ้างในการนำพา 14,000-16,000 บาท คิดตามระยะทางใกล้-ไกล ส่วนชาวโรฮีนจา ต้องการที่จะเดินทางต่อไปที่ประเทศมาเลเซีย จะต้องเสียค่าจ้าง 20,000 บาท
โดยหลังการจับกุมได้นำผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้ง 33 คน เข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรค ได้ทำการวัดอุณหภูมิร่างกายไม่พบว่าอุณหภูมิเกิน 37 องศา และได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.