เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
ศูนย์ป้องกันโควิดอัยการ ดำเนินการเฝ้าระวังหลังพบเจ้าหน้าที่อัยการในจังหวัดราชบุรีติดเชื้อ พบไทม์ไลน์ตรงวัน อสส.ลงพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 7
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 64 ได้มีเอกสารเผยเเพร่ข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด ตามที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. จังหวัดราชบุรี รายงานตรวจพบบุคลากรของสำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อ COVID-19 รายที่ 42 จากการแพร่ระบาดรอบใหม่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตลาดวันเดอร์ บางแค โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพบว่า มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 37 ของจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นพี่สาว และนอกจากนี้ยังมีสมาชิกในครอบครัว คือ ลูกสาว และ สามี ติดเชื้อ COVID-19 ด้วย โดยสามีซึ่งเป็นบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และยังไม่ได้เดินทางกลับไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดนครพนมแต่อย่างใด
เบื้องต้น นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ รองอัยการสูงสุด ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) ได้ประสานงานไปยัง นายเฉลิมพันธ์ ประทีปถิ่นทอง อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการภาค 7 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการภาค 7 แจ้งว่า ได้ทาการประสานกับ ศบค.จังหวัดราชบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนของการป้องกันและควบคุมโรค พร้อมทั้งทำการตรวจสอบ Time Line ของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และได้ให้บุคลากรในสำนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้าทำการตรวจหาเชื้อ COVID-19 แล้ว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ที่นั่งทำงานติดกัน ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนที่เหลือมีผลเป็นลบ แต่ในจำนวนนี้ยังคงต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการต่อไปอีก 14 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบ Time Line แล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการภาค 7 ได้ประสานกับ ศบค.จังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำความสะอาดฆ่าเชื้อในอาคารสำนักงานอัยภาค 7 ทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งสองรายดังกล่าว พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 ทั้งการตั้งจุดคัดกรองผู้มาติดต่อ การเว้นระยะห่าง การสวมใส่ หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย และการล้างมือ โดยจะจัดให้เจ้าหน้าที่บางส่วนปฏิบัติงานแบบ Work from Home ส่วนประชาชนที่มีความจาเป็นต้องติดต่อราชการขอให้ตรวจสอบเบื้องต้นทางโทรศัพท์กับหน่วยงานก่อน
ด้าน นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมแสดงความห่วงใยบุคลากรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ไม่ประมาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 42 ซึ่งเป็นบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เดินทางไปงานที่อัยการสูงสุด ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานอัยการภาค 7 และอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดนครปฐม