เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ราชบุรี – อาชีพเสริมเงินแสน!! หนุ่มวิศวกร ทำฟาร์มปูนาน้ำใส ธุรกิจสวนกระแสยุคโควิด-19 สนับสนุนต่อยอดผลักดันการเลี้ยงปูนาน้ำใสให้เป็นวิสาหกิจชุมชน ให้ชาวบ้านในพื้นที่มาศึกษาดูงาน
“ปูนา” เป็นสัตว์ประจำท้องถิ่นของไทย และเป็นสัตว์เศรษฐีกิจที่มีความต้องการจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก แต่สัตว์ที่หลายคนมองข้ามไม่เห็นคุณค่าและมูลค่าของมัน แต่ในวันนี้ หนุ่มวิศวกรเจ้าของฟาร์ม “ณิชา ฟาร์มปูนาน้ำใส” กลับให้ความสนใจและศึกษาเรียนรู้ และเพาะเลี้ยงอย่างจริงจัง เพื่อหวังจะให้ปูนา กลับมาเป็นสัตว์เศรษฐีกิจในท้องถิ่น โดยได้เนรมิตพื้นที่ภายในบ้านเพราะเลี้ยงปูนาน้ำใส ไร้สาร ไร้พยาธิ
โดยมุ่งหวังจะขยายพันธุ์จำหน่ายให้แก่บุคคลที่สนใจเลี้ยงปูนา นำไปเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ เนื่องจากปูนาปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดมาก นอกจากนี้ ทางฟาร์มยังมีการแปรรูปปูนา เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งประสบผลสำเร็จมาแล้ว จนเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงปูนาน้ำใส และหาแหล่งจำหน่ายให้แก่บุคคลที่สนใจเลี้ยงปูนา
“ณิชา ฟาร์มปูนาน้ำใส” ที่ตั้งอยู่เลขที่ 13/6 หมู่ 7 ต.หนองกลางนา อ.เมือง จ.ราชบุรี พบกับ นายประพันธ์ ฤาชัย หรือคุณฝุ่น อายุ 51 ปี เจ้าของณิชา ฟาร์มปูนาน้ำใส โดยได้นำเข้าดูการเลี้ยงขยายพันธุ์ปูนาน้ำใส ไร้สาร ปลอดพยาธิ ที่ใช้วิธีการเลี้ยงแบบบ่อซีเมนต์และระบบน้ำวน หลังใช้เวลาว่างจากการทำงานประจำ ทำการเพาะขยายพันธุ์ปูนาน้ำใส เพื่อจำหน่ายให้แก่บุคคลที่สนใจเลี้ยงปูนาน้ำใส มาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจปูนาน้ำใส ที่กว่าจะประสบความสำเร็จดังทุกวันนี้ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
โดย นายประพันธ์ ให้ข้อมูลว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยความอยากหาอาชีพรองรับในช่วงที่ตนจะเกษียน และหากิจกรรมสำหรับครอบครัวที่สามารถทำร่วมและเป็นรายได้ให้แก่ครอบครัวได้ จึงได้ศึกษาข้อมูลการเลี้ยงปูนาน้ำใสจากฟาร์มหลายแห่งมากว่า 4 ปี ก่อนจะตัดสินใจทำฟาร์มปูนาน้ำใส แบบครบวงจรมากว่า 6 เดือน
โดยการเลี้ยงปูนาน้ำใสจะใช้น้ำประปาเลี้ยงในบ่อปูน หรือบ่อผ้าใบ ไม่ให้ปูนาสัมผัสกับพื้นดิน น้ำที่ใช้จะต้องเป็นน้ำสะอาดที่ไม่มีพยาธิและปรสิต หรือเชื้อโรคต่างๆ วิธีการเลี้ยงจะคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่แข็งแรงมาผสมและเพาะพันธุ์ โดยระยะเวลาในการเลี้ยงปูนารุ่นหนึ่งใช้เวลา 6 เดือน จะสามารถนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ ที่ฟาร์มจะเลี้ยงปูนาในระบบน้ำวน เพื่อให้น้ำไม่นิ่งคล้ายธรรมชาติ
สำหรับอาหารของปูนาจะมีหลากหลาย เช่น ข้าวสวยผสมเนื้อปลาสด ขนมปัง กล้วย มะละกอ ซึ่งจะให้ทุกวันสลับกันไป แต่จะมีแคลเซียมเสริม 2 ครั้งต่อเดือน เพื่อเสริมให้กระดองแข็งแรง พันธุ์ปูนาที่นำมาเลี้ยงมี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์พระเทพ และพันธุ์กำแพง
นายประพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ปูนาในฟาร์มจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปูนาอนุบาล กลุ่มปูนาหนุ่มสาว อายุประ มาณ 2-4 เดือน และกลุ่มพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ อายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป ส่วนความแตกต่างระหว่างปูนาตามท้องนากับปูนาน้ำใส คือ ปูนาตามท้องนาจะอยู่กับพื้นดิน ซึ่งจะมีสารเคมีต่างๆ ทำให้ปูนาจะมีพยาธิและปรสิตเยอะ แต่ปูนาน้ำใสจะไม่มีพยาธิหรือปรสิต เพราะเราเลี้ยงอยู่ในน้ำที่สะอาด และระบบน้ำวนตลอด
โดยที่ฟาร์มจะมีการรับซื้อปูนาจากชาวบ้านที่จับได้ตามท้องนา และมาเข้ากรรมวิธีฟอกปอด โดยนำปูนาท้องนามาอยู่ในบ่อคัดแยกโดยจะใส่ใบหูกวางเพื่อฆ่าเชื้อในน้ำ โดยจะพักเลี้ยงฟอกปอดนาน 5-10 วันก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าปูไม่มีพยาธิและปรสิตแล้ว ถึงจะเอามาลงบ่อรวมกับปูนาน้ำใสภายในฟาร์มได้ ปัจจุบันทางฟาร์มจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ อายุ 1-4 เดือนคู่ละ 60 บาท อายุ 5-7 เดือนคู่ละ 80 บาท ส่วนปูตัวเมียที่มีไข่จะขายตัวละ 200 บาท
โดยทุกส่วนของปูนาน้ำใสสามารถนำมาจำหน่ายได้หมด หากนำไปชำแหละราคาจะปรับขึ้น ซึ่งก้ามปู กก.ละ 700 บาท มันปู กก.ละ 1,000-1,200 บาท กระดองปูตากแห้ง กก.ละ 700 บาท อกปู กก.ละ 70 บาท หรือจะนำไปแปรรูปขายเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำพริกเผาปูนาและอีกมากมาย โดยช่วงแรกที่ฟาร์มจะมีรายได้ตกอยู่ประมาณ 50,000-60,000 บาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันมีรายได้ตกอยู่ที่เดือนละ 50,000-100,000 บาทต่อเดือน โดยทางฟาร์มผลิตลูกปูนาและพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไม่พอจำหน่ายให้บุคคลที่สนใจนำไปเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้
นายประพันธ์ ยังกล่าวต่อว่า ธุรกิจเลี้ยงปูนาน้ำใสยังไปต่อได้อีกไกลเรียกว่าไม่มีหยุด เพราะตอนนี้ตลาดปูนามีความต้องการเป็นอย่างมาก แต่ผู้ประกอบการกลับไม่พอขาย ซึ่งถ้าใครสนใจอยากจะเรียนรู้หรือศึกษาการเลี้ยงปูนาน้ำใส ทางฟาร์มยินดีที่แนะนำขั้นตอนการเลี้ยงทุกขั้นตอน ทั้งการทำผลิตภัณฑ์แปรรูป และให้คำปรึกษาหาแหล่งจำหน่ายโดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เพจเฟซบุ๊กณิชา ฟาร์มปูนา หรือโทร.08-9801-1690 (คุณฝุ่น)
ขณะเดียวกัน นายสุวิทย์ จินดาเจี่ย อายุ 58 ปี อดีตรองนายก อบต.หนองกลางนา กล่าวว่า ในส่วนของตนคิดว่าจะเข้ามาสนับสนุนและต่อยอดผลักดันการเลี้ยงปูนาน้ำใส ให้เป็นวิสาหกิจชุมชน ให้ชาวบ้านในพื้นที่มาศึกษาดูงาน อาจจะจัดตั้งให้ผู้สูงอายุหรือกลุ่มคนว่างงานเข้ามาทำตรงนี้จะได้มีรายได้ ซึ่งการเลี้ยงปูนาน้ำใสสามารถเลี้ยงอยู่กับบ้านได้ และเป็นงานที่ไม่หนักเกินไปสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย