19 เม.ย.64 – พลโทสันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก และโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 ซึ่งรัฐบาล โดย ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนกำหนดมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่ ธ.ค.62 โดยในส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพบกใช้ศักยภาพให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเต็มที่
สำหรับการเตรียมโรงพบาลสนามในปัจจุบันกองทัพบกได้ใช้สถานที่ในหน่วยทหารและสิ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เตรียมรองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่หนักแล้วในขั้นต้น จำนวน 16 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 12 จังหวัด รองรับผู้ติดเชื้อได้ 2,556 เตียง ได้แก่ กทม. 2 แห่ง (กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ ขนาด 200 เตียง และ อาคารรับรองเกียกกาย เขตดุสิต ขนาด 86 เตียง), ประจวบคีรีขันธ์ ขนาด 100 เตียง, นนทบุรี ขนาด 200 เตียง, กาญจนบุรี ขนาด 300 เตียง, ราชบุรี ขนาด 740 เตียง, ลพบุรี ขนาด 150 เตียง, ปราจีนบุรี ขนาด 150 เตียง, นครราชสีมา ขนาด 250 เตียง, ร้อยเอ็ด ขนาด 90 เตียง, เพชรบูรณ์ขนาด 90 เตียง , พิษณุโลก ขนาด 150 เตียง, นครศรีธรรมราช ขนาด 50 เตียง
โดยล่าสุด โรงพยาบาลสนามกองทัพบกที่เปิดให้บริการรับผู้ติดเชื้อเข้าพักและเป็นโรงพยาบาลที่ใช้บุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพบก เข้าบริหารจัดการมี 2 พื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลสนามกองทัพบกเกียกกาย (โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) และ โรงพยาบาลสนามกองทัพบกศูนย์การทหารราบ(โรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์) และในสัปดาห์นี้กองทัพบกได้ส่งมอบโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ให้กับกระทรวงสาธารณสุขเข้าบริหารจัดการ และเปิดรับผู้ติดเชื้อต่อไป ส่วนโรงพยาบาลสนามในพื้นที่อื่น ๆ มีความพร้อมในการเปิดให้บริการรักษาพยาบาลโดยเป็นไปตามการพิจารณาและร้องขอของกระทรวงสาธารณสุข
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 – 4 จัดเตรียมพื้นที่ในค่ายทหารอีก 19 แห่ง ในพื้นที่ 17 จังหวัด รองรับผู้ป่วยได้ 1,910 เตียง เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม เมื่อได้รับการร้องขอ ซึ่งทำให้ภาพรวมทั้งหมดของโรงพยาบาลสนามที่กองทัพบกจัดเตรียมไว้รองรับสถานการณ์ COVID-19 ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งหมด 25 แห่ง สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ ทั้งสิ้น 4,466 เตียง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
ในห้วงเดือน มี.ค.-ปัจจุบัน กองทัพบกได้ส่งกำลังพลเข้าช่วยส่วนราชการและโรงพยาบาลในหลายจังหวัด ในการเตรียมพื้นที่และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามประจำจังหวัด เพื่อแบ่งเบาภาระและทำให้การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามมีความรวดเร็ว สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ทันต่อสถานการณ์ พร้อมกันนี้กองทัพบกได้สนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ประเภทเตียง ที่นอน และเครื่องนอน จำนวน 4,421 ชุด ให้กับส่วนราชการและจังหวัดต่าง ๆ พร้อมการขนย้ายและประกอบเตียง เพื่อนำไปใช้ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัด จำนวน 20 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ห่วงใยคนสาคร จ.สมุทรสาคร 1,500 ชุด, โรงพยาบาลสนาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ 100 ชุด, โรงพยาบาลสนาม จ.นนทบุรี 300 ชุด , โรงพยาบาลสนามผู้สูงอายุ บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 700 ชุด, โรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 80 ชุด, โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 3 เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 200 ชุด
โรงพยาบาลสนามสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี จ.ปทุมธานี 100 ชุด, โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ 336 ชุด, โรงพยาบาลสนามสนามกีฬากลาง จ.นครสวรรค์ 60 ชุด, โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร 50 ชุด, โรงพยาบาลสนาม อบจ.น่าน 15 ชุด, State Quarantine ที่ ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.33 จ.เชียงใหม่ 180 ชุด, โรงพยาบาลสนามจิตเวชน์สงขลาราชนครินทร์ จ.สงขลา 40 ชุด, โรงพยาบาลสนามท่าช้าง จ.สุราษฏ์ธานี 30 ชุด, โรงพยาบาลสนามค่ายมหาจักรีสิรินธร จ.สงขลา 100 ชุด, โรงพยาบาลสนามค่ายลพบุรีราเมศวร จ.สงขลา 100 ชุด นอกจากนี้ กองทัพบกยังมีความพร้อมและจัดเตรียมอุปกรณ์ เตียงนอนทหาร เครื่องนอนและสิ่งอุปกรณ์ที่มีประจำการพร้อมนำมาสนับสนุนทุกภาคส่วน รองรับการให้บริการผู้ติดเชื้อที่อาจจะมีจำนวนควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พลและการช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน
สำหรับกองกำลังชายแดนของกองทัพบกได้สกัดกั้นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศในทุกช่องทาง โดยเฉพาะการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านการคัดกรองโรค โดยในปัจจุบันกองทัพบกได้จัดกำลังพลประมาณ 3,000 นาย/วัน จากทุกกองทัพภาค เพื่อปฏิบัติภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID -19 สนับสนุนตามมาตรการของ ศบค. ในลักษณะการตั้งจุดตรวจ สายตรวจกิจการกิจกรรมตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ พื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินการอยู่ใน 10 พื้นที่ตั้งแต่เริ่มการระบาดถึงปัจจุบัน รวมถึงการจัดกำลังพลสนับสนุนการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เดือน ธ.ค.63 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 450 นาย
ด้วยเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก ที่ย้ำอยู่เสมอว่า กองทัพบกและกำลังพล จะต้องเสียสละ ทุ่มเทศักยภาพในทุกด้าน ควบคู่ไปกับการร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อดูแลประชาชน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ได้อย่างปลอดภัย ร่วมกันทำให้สังคมไทยกลับมาเข้มแข็ง และประเทศเดินหน้าต่อไป