ราชบุรี – ชาวบ้านยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม หลังนายก อบต.ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังได้รับเลือกให้เป็นนายก อบต.มาแล้ว 2 สมัย เชื่อเป็นเรื่องการเมือง แจ้งถือหุ้นสื่ออยู่ ทั้งที่นายก อบต.หนองกระทุ่ม ถอนหุ้น และลาออกจากกิจการของสื่อแล้วเป็นปีก่อนสมัคร
วันนี้ (3 ม.ค.) มีตัวแทนชาวบ้านใน ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กว่า 50 คน เดินทางมาที่หน้าที่ว่าการอำเภอปากท่อ พร้อมกับป้ายข้อความขอถามนายอำเภอปากท่อ โดนใบสั่งหรือป่าว ชาวบ้านทุกคนใน ต.หนองกระทุ่ม งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนดีโดนกลั่นแกล้ง นายอำเภอปากท่อ ต้องหาพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงมาชี้แจงด้วย คนทำงานสร้างความเจริญต่อบ้านเมืองยังถูกบีบให้ออกจากหน้าที่
โดยชาวบ้านที่เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และขอให้ทางอำเภอปากท่อชี้แจงในเรื่องที่ทางอำเภอมีหนังสือคำสั่งให้ ด.ต.ยงยุทธ ผลเอนก นายก อบต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างว่า ด.ต.ยงยุทธ ยังมีหุ้นอยู่กับบริษัทที่เป็นสื่ออยู่ ทั้งที่ ด.ต.ยงยุทธ นั้นลาออกมานานแล้ว และได้รับเลือกให้เป็นนายก อบต.มาแล้ว 1 สมัย ซึ่งในสมัยนี้เป็นสมัยที่ 2 และทาง กกต.ได้รับรองให้ปฏิบัติหน้าที่มาเป็นปีแล้ว แต่ทางอำเภอเพิ่งจะมีหนังสือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ชาวบ้านจึงอยากทราบเหตุผลของการออกหนังสือในครั้งนี้
ต่อมา นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านขึ้นไปพูดคุยในห้องประชุม พร้อมกับชี้แจงในกรณีออกหนังสือให้นายก อบต.หนองกระทุ่ม หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า ด.ต.ยงยุทธ ถูกร้องเรียนตั้งแต่ในวันที่สมัครแล้วว่า มีคุณสมบัติไม่ครบ คือยังถือหุ้นสื่ออยู่ และในช่วงก่อนที่จะมีการรับสมัครได้มีการแก้กฎหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่น ซึ่งมีข้อห้ามไม่ให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของท้องถิ่นมีหุ้นในกิจการของสื่อ แต่ทาง ด.ต.ยงยุทธ นั้นได้แจ้งว่ามีการถอนหุ้นและลาออกจากกิจการของสื่อแล้ว จึงทำให้รับสมัครได้ และได้รับเลือกจากชาวบ้านให้มาปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.หนองกระทุ่ม มาประมาณ 1 ปี
แต่ในขณะที่ทาง กกต. ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะมีคนร้องเรียนมา จนกระทั่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือคำสั่งมาจาก กกต. กลางให้ นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะยังมีหุ้นสื่ออยู่ ทำให้ทางอำเภอต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสอบถามไปที่พาณิชย์จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับจดทะเบียน ทราบว่า ด.ต.ยงยุทธ นั้นยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนในกิจการสื่อนั้นอยู่ จึงทำให้ต้องมีหนังสือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ ด.ต.ยงยุทธ นั้นยังมีทางออกคือ ต้องไปพึ่งศาลปกครอง เพื่อให้มีคำวินิจฉัย เพราะหาก ด.ต.ยงยุทธ อ้างว่าได้ทำหนังสือลาออกมานานแล้ว และกิจการดังกล่าวไม่ได้มีรายได้ สามารถนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นต่อศาลปกครองได้
ในขณะที่ชาวบ้านนั้นยังคงแคลงใจ เนื่องจาก ด.ต.ยงยุทธ นั้นได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบต. มาแล้วถึง 2 สมัย แต่เพิ่งจะมาขาดคุณสมบัติในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้ชาวบ้านนั้นมองว่าอาจจะมีผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
