หนุ่มราชบุรีเปิดใจ อีกเสียงสุดช้ำวุ่นค่ามัดจำเต็นท์ หลังไปเที่ยวมหกรรมคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เขาใหญ่ สุดท้ายต้องนอนในรถ อาบน้ำวัด
จากกรณีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชม มหกรรมคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แล้วปรากฎว่าเกิดความวุ่นวายในวันเดินกลับ เมื่อนักท่องเที่ยวมีปัญหาเรื่องเงินค่ามัดจำเต็นท์ 300 บาทคืนจากรีสอร์ต จนมีผู้นำเรื่องนี้ไปโพสต์แสดงความไม่พอใจจำนวนมาก
โดยเรื่องนี้ วันที่ 13 ธ.ค.2565 นายธรรมนูญ ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าที่เข้าพักในรีสอร์ต เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนตั้งใจจะไปเที่ยวชมงาน บิ๊กเมาน์เท่น โดยตัดสินใจโอนเงินค่าจองเต็นท์ที่พักในรีสอร์ตไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมารวม 7 หลัง เป็นเงิน 8,700 บาท ซึ่งทางเพจแจ้งว่า แค่เพียงหิ้วกระเป๋าก็เข้าพักได้เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
” แต่เมื่อเข้าพักจริงในวันที่ 9 ธ.ค. กลับต้องจ่ายมัดจำค่าเต็นท์เพิ่มในราคา 300 บาทต่อหลัง รวมเป็นเงิน 2,100 บาท ขณะที่การบริหารจัดการของรีสอร์ตไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ ทั้งเรื่องห้องน้ำที่มีให้บริการไม่เพียงพอ น้ำไม่ไหล และที่จอดรถต้องไปจอดไกลจากที่พักถึง 6 ก.ม.และต้องจ่ายค่าจอดเพิ่มอีก 350 บาทจึงตัดสินใจเช่าที่จอดรถใกล้ที่พักในราคา 450 บาทแทน แต่ขณะนั้นรีสอร์ตยังคงเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบวอล์กอินเรื่อยๆ ทำให้ลานกางเต็นท์แอดอัดไปด้วยผู้คน ในส่วนของเต็นท์ที่พักก็มีขนาดเล็กจนไม่สามารถนอนยืดขาได้ รวมไปถึงไม่สามารถกันน้ำค้างได้ จนตนต้องไปนอนในรถและอาบน้ำที่วัดแทน “
นายธรรมนูญ เล่าต่อว่า กระทั่งวันสุดท้ายช่วง 10 โมงเช้า หลังจากผมและเพื่อนๆเก็บข้าวของเสร็จไปต่อแถวรอรับเงินมัดจำคืน สังเกตเห็นว่ามีคนมายืนรอต่อแถวค่อนข้างยาว และยืนรอนาน 30 นาทีก็ไม่ขยับ ระหว่างเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้ยินน้องวัยรุ่นคุยกัน ทำให้ทราบว่ารีสอร์ตมีปัญหาเรื่องคืนเงินมัดจำ สงสารน้องๆเพราะหลายคนไม่มีเงินที่จะเดินทางกลับ
ผมจึงเข้าไปช่วยเจรจาโดยทางน้องแอดมินของรีสอร์ตแจ้งว่า โอนเงินส่งให้เจ้าของรีสอร์ตไปหมดแล้ว และเจ้าของรีสอร์ตให้ไปคุยที่โรงพัก ทำให้คนที่เข้าพักไม่พอใจ ต่อมาแม่เจ้าของรีสอร์ตออกมาเจรจา อ้างว่าไม่มีเงิน และไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ มีหน้าที่แค่กางเต็นท์ เพราะเรื่องเงินเป็นหน้าที่ของลูกกับแอดมิน
นายธรรมนูญ บอกด้วยว่า สุดท้ายผมขอให้แอดมินใช้เงินที่เหลือในบัญชี 1,600 บาทโอนให้กับน้องๆ ที่มีความเดือดร้อนมากที่สุดก่อน ในส่วนของผมและคนที่เหลือที่อยู่รอจนถึงช่วงบ่ายจึงได้รับเงิน ทราบต่อมาว่ารีสอร์ตจ่ายค่ามัดจำคืนลูกค้าไปประมาณ 60,000 บาท สำหรับคนที่เหลือต้องรอลุ้นว่ารีสอร์ตจะติดต่อกลับไปหรือไม่ ผมตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการยื้อเวลา เพื่อให้คนที่รอค่ามัดจำน้อยลงหรือไม่
” หากมีโอกาสผมก็ยังจะไปเที่ยวงานนี้อีกครั้ง แต่จะเลือกที่พักที่มีมาตรฐานและการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ อยากฝากไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาเข้ามาตรวจสอบ และควบคุมมาตรฐานที่พัก อย่าให้เอาเปรียบผู้บริโภค เพราะจะทำให้เสียบรรยากาศและความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวในอนาคต ”