เมื่อวันที่ 10 มกราคม ช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่สนามวัดเทพชุมนุม ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 สงขลา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้นำทีมขุนพลของพรรค อย่าง นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี รวมถึงส.ส.ภาคใต้ และส.ส.จากทั่วประเทศ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 หลั่งไหลเข้าร่วมฟังการปราศรัยมากกว่า 5,000 คนจนเต็มสนาม ซึ่งทันทีที่ พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนให้การต้อนรับ และ เข้ามอบพวงมาลัยและดอกไม้จำนวนมาก ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ได้ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือ น้องโบ๊ท ผู้สมัครหมายเลข 3 ของพรรค ท่ามกลางการให้การต้อนรับ จากประชาชนในพื้นที่อย่างล้นหลาม ด้าน น.ส.ปารีณา ได้ลงไปเดินถ่ายรูปกับพี่น้องประชาชนถึงด้านหน้าเวทีด้วย
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยช่วยหาเสียงตอนหนึ่งว่า ได้ขึ้นเวทีภาคใต้เป็นครั้งที่ 2 ขอชื่นชมในความรักความสามัคคีต่อพรรคพปชร. พรรคพปชร.ใจถึงพึ่งได้ วันนี้มาด้วยกันหลายคนทั้งรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ประธานยุทธศาสตร์พรรคและส.ส. โดยเฉพาะส.ส.4 คนที่อยู่ในจ.สงขลา ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจตนและพรรคพปชร. ได้ทำงานเป็นรัฐบาลมาปีนี้เป็นปีที่ 3 จะขึ้นปีที่ 4 ได้พยายามที่จะทำทุกอย่างทั้งโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นรถไฟ ถนนสะพาน ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีมีสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ฉะนั้นฝากพี่น้องทุกคนพรรคพปชร.ใจถึงพึ่งได้
“อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกฯมา 7 ปี ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ ให้ประชาชนทุกคนได้อยู่ดีกินดีขึ้น พรรคพปชร.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลพรรคเสียงข้างมากและเราก็จะจัดตั้งต่อไป ถ้าเราได้เสียงข้างมากที่ประชาชนให้การสนับสนุน ฉะนั้นทุกคนที่มาในวันนี้ มีความเชื่อมั่นว่าทุกคนเชื่อมั่นในพรรคพปชร.และบุคคลในพรรค ทั้งส.ส.และว่าที่ “ส.ส.โบ๊ท เบอร์ 3″ จำให้แม่นนะว่าเบอร์อะไร พรรคพปชร.และเราทุกคนนั้น ให้คนใต้หมดหัวใจ ขอย้ำว่า รักหมดใจ โดยพล.อ.ประวิตร ได้ชู 3 นิ้ว เป็นลักษณ์โอเค ก่อนลงจากเวทีปราศรัย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศัยว่า มีความยินดีและดีใจ ที่ได้มาปราศัยหาเสียงช่วยน้องโบ๊ต ที่ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรงและมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทุกเรื่องในยามเดือดร้อนได้ จึงขอฝากให้พี่น้องประชาชนเทคะแนนเสียงมาเลือกน้องโบ๊ต เข้ามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง และมาพัฒนาเมืองหาดใหญ่ สงขลาโดยเฉพาะตำบลบ้านพรุ บ้านไร่ พะตง สะเดา เป็นต้น ที่ต่อไปจะต้องเจริญรุ่งเรือง เศรษฐกิจดีขี้น วันนี้ แม้พรรคอื่นจะเป็นอย่างไร แต่ พรรคพลังประชารัฐ นั้นชื่อบอกชัดเจนว่า ประชาชนบวกรัฐบาล จึงพร้อมทำงานเพื่อบ้านเมืองเต็มที่ ใครที่ปรามาสว่าถ้าเลือกแล้วจะมีพรรคนี้อยู่หรือไม่ บอกได้เลยฝันไปเถอะพรรคเรายังอยู่ และจะยิ่งใหญ่ตลอดไป ยกตัวอย่าง ปีที่แล้วที่การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่นครศรีธรรราช เรายังชนะเลือกตั้งได้นายอำเภออาญาสิทธิ์ มาเป็นส.ส ด้วยคะแนนล้นหลาม จึงไม่ต้องสงสัยว่า ที่เขต 6 สงขลานี้ เรามีผู้สมัครที่มีความพร้อม พี่น้องประชาชน ต้องมีผู้แทนที่จะเข้าไปมีส่วนกำหนดในการพัฒนาแต่ละพื้นที่ของเรา ดังนั้นในวันที่ 16 มกราคมนี้ เราต้องช่วยกันเลือกผู้แทนคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็น ส.ส. และพรรคมั่นว่า จะมีส.ส. เพิ่มอีก 1คน จากเดิม มี 4 คน รวมเป็น 5 คน อย่าลืมไปช่วยกันเลือกคนดีเข้าสภา อย่าเลือกเสาไฟฟ้า เพราะเรามีคนรุ่นใหม่ มีความพร้อมดีกว่าแน่นอน
มีรายงานว่า ระหว่างที่ร้อยเอกธรรมนัสปราศัยอยู่นั้น ยังได้แนะให้น้องโบ๊ต ไหว้หาเสียงจากประชาชนด้วยการกราบลง 3 ครั้งโดยย้ำว่าเป็นสัญลักษณ์ของเบอร์ 3 พร้อมย้ำว่า หากได้รับเลือกเป็นส.ส.ให้กราบไหว้พี่น้องประชาชนได้เหมือนตอนมาหาเสียงแบบนี้ด้วย สร้างความพอใจและเสียงปรบมือให้กำลังใจน้องโบ๊ตอย่างคึกคัก
ขณะที่ ศ.ดร.นฤมล ได้ขึ้นปราศัยช่วงหนึ่งว่า เวทีหาเสียงวันนี้มีความคึกคักมาก เพราะบุคคสำคัญของพรรค ภายใต้การนำของท่านหัวหน้าพรรค ได้มาพร้อมกันอยู่ที่นี่รวมถึงส.ส.แทบทุกภาคของพรรค เพื่อมาให้กำลังผู้สมัครของเราคือน้องโอ๊ต เบอร์ 3 จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นว่า พรรคภายใต้การนำของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสต์พรรค ทั้งสองท่านร่วมกันกำหนดยุทธสาสตร์สำคัญ 3 เสาหลักคือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ทำแล้วและประชาชนจับต้องได้ ช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จนเสียชีวิต ซึ่งจากนี้จะมีการต่อยอดสวัสดิการดูแลประชาชนเพิ่มขึ้น เสาที่ 2 คือถ้าสวัสดิการดีแล้ว เราะต่อด้วยเศรษฐกิจประชารัฐ ด้วยนวัตกรรมทันสมัย เราได้ทำให้ชาวบ้านมีที่ทำกิน แก้หนี้นอกระบบ คืนโฉนดให้ประชาชน นี่คือผลงานจากการผลักดันของพลเอกประวิตรทั้งสิ้น และจะมีการต่อยอดไปสู่เกษตรประชารัฐ ซึ่งแต่ละพื้นที่ ส.ส จะดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนเสาที่ 3คือสังคมประชารัฐ ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคที่ดูแลด้านมั่นคงได้แก้ปัญหายาเสพติดอย่างแท้จริง ทั้งสามเสาหลักนี้ จะเกิดขึ้นได้และต่อยอดต่อไป ต้องขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน เขต 6 ให้เข้ามาช่วยกันผลักดันและทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่