ผู้ปกครองรวมตัวไล่ ผอ.โรงเรียนชัชเจริญ อ้างส่อทุจริต ส่วน ผอ.โต้ทำตามระเบียบ
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ราชบุรี – ผู้ปกครองรวมตัวไล่ ผอ.โรงเรียนชัชเจริญ อ้างส่อทุจริต ส่วน ผอ.โต้ทำทุกอย่างเพื่อเป็นระเบียบของเด็กนักเรียนเป็นหลัก
วันนี้ (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านชัชเจริญ หมู่ 5 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี นายโยธิน จวงเจิม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมทั้งผู้ปกครองและนักเรียนประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาที่โรงเรียน พร้อมกับมีป้ายข้อความ คณะกรรมการสถานศึกษาไม่ต้องการ ผอ.ที่ไม่ซื่อสัตย์ ที่นี่ไม่ต้องการ ผอ.คนนี้ และ ผอ.คนนี้อยู่ที่นี่พวกเราจะย้ายโรงเรียน โดยตะโกนขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาชี้แจงในกรณีที่ผู้ปกครองของเด็ก และคณะกรรมการสถานศึกษาทำให้มีสิ่งต้องสงสัยหลายอย่าง
โดยนายโยธิน จวงเจิม สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ กล่าวว่า ที่มารวมตัวกันเนื่องจาก นางสุรภา โชคไพศาลธนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัชเจริญ ทำเรื่องที่ไม่โปร่งใส ซึ่งมีทั้งเรื่องโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน ซึ่งให้ครูไปแจ้งกับชาวบ้านว่าจะทำอาหารกลางวันให้เด็กเอง ที่ผ่านมา ใช้ชื่อพี่สาวประมูลโครงการอาหารกลางวัน แต่จ้างแม่ครัวมาทำรายวันแล้วโอนเงินค่าอาหารเข้าบัญชี ผอ.เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง เด็กกินไม่อิ่ม ให้อาหารน้อย แล้วยังมีเรื่องการพูดจาที่ไม่สุภาพกับเด็กนักเรียน และครูในโรงเรียน
รวมทั้งเรื่องการติดตั้งไฟส่องสว่างทางเข้าโรงเรียน ซึ่งไม่ได้แจ้งให้ทางคณะกรรมการสถานศึกษาได้รับทราบว่าจะมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องสว่าง และติดตั้งไฟในโรงอาหารซึ่งอาจจะมีราคาที่แพงเกินไป และยังไปหักเงินเดือนของครูอัตราจ้าง และจะให้ครูอัตราจ้างออกอีก ซึ่งทางผู้ปกครองนั้นยอมไม่ได้ และขอให้ ผอ.ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ส่วนเรื่องของโครงการกลางวันนั้นตอนนี้ปิดเทอมแล้ว แต่ทาง ผอ.ยังทำเรื่องเบิกค่าอาหารกลางวันอีก จึงเชื่อว่าน่าจะไม่มีความโปร่งใส
ด้านนางฐิติมา เอื้อเฟื้อ อดีตแม่ครัวของโรงเรียนกล่าวว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้มาเป็นแม่ครัว ได้ค่าแรงวันละ 250 บาท โดยมาทำกับน้องสาว 2 คน และเพิ่งจะถูก ผอ.ให้ออกเมื่อไม่นานมานี้ โดย ผอ.ให้เหตุผลว่าที่เด็กกินไม่อิ่มเพราะต้องนำค่าอาหารของเด็กมาจ้างแม่ครัว และในวันที่มาจ้าง ผอ.เป็นคนให้ค่าแรงเอง ซึ่งเราไม่ได้มีการตั้งราคา และทุกครั้งจะตักอาหารให้เด็กกินให้อิ่มและจะสอบถามเรื่องรสชาติอาหารกับเด็กตลอด
แต่ที่โรงเรียนนี้ ผอ.ไม่ให้ใช้น้ำปลา แต่ให้ใช้เกลือแทน ส่วนผงชูรสจะกำหนดให้ ซึ่งเวลาที่ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงเด็กจะไม่มีน้ำปลามีแต่น้ำส้มพริกดอง กับน้ำตาล ส่วนเนื้อหมูเนื้อไก่จะซื้อแค่อาทิตย์ละครั้งแล้วแช่เอาไว้ เวลาจะทำอาหารจะต้องแบ่งออกมาแล้วนำไปแช่น้ำให้หายแข็งก่อนจะนำไปทำอาหาร ทำให้เด็กไม่มีโอกาสได้กินของสด ซึ่งสามารถที่จะไปสอบถามแม่ครั้วคนอื่นๆ ที่เคยมาทำอาหารให้ทางโรงเรียนได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ไม่ได้ใส่ร้าย ผอ.
ทางด้าน นางสุรภา โชคไพศาลธนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัชเจริญ บอกว่า สิ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้นทำเพื่อโรงเรียนและทำตามระเบียบทุกอย่าง ทั้งเรื่องของไฟส่องสว่างเป็นแผนปฏิบัติการอยู่แล้ว ประกอบกับทางโรงเรียนจะต้องต้อนรับแขกที่จะมาเข้าพักในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน จึงได้ติดตั้งไฟส่องสว่างโดยมีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้อง ส่วนเรื่องอาหารกลางวันนั้นแม่ครัวคนเก่าลาออก และทางโรงเรียนยังหาแม่ครัวไม่ได้ ทาง ผอ.กับครูต้องช่วยกันทำไปก่อน ต่อมามีการจ้างเหมาแม่ครัว แต่เมื่อสอบถามเรื่องรสชาติอาหารจากเด็กบอกว่าไม่อร่อย ทางแม่ครัวก็ลาออกไป ทำให้ทาง ผอ.กับครู และภารโรงในโรงเรียนต้องช่วยกันทำอาหารให้เด็กเพราะหาแม่ครัวไม่ทัน
ต่อมา ได้แม่ครัวคนใหม่มา 2 คน จ้างคนละ 250 บาท อาทิตย์ละ 2,500 บาท แต่ของหายบ่อย จนทำให้ครูที่ดูแลเรื่องนี้มาบ่นให้ฟัง ซึ่งมาจับได้ในช่วงที่ไปซื้อของมาจากห้างแม็คโคร เพราะซื้อไข่มา 5 แผง โดยลงในใบเสร็จของห้างแต่กลับไม่มีไข่ จึงทำให้รู้ว่ามีของหาย ส่วนของที่ซื้อมานั้นบางอย่างสามารถซื้อมาแช่แข็งเก็บไว้ได้ แต่บางอย่างต้องซื้อวันต่อวัน
ส่วนที่บอกว่าปิดเทอมยังมีการจัดทำโครงการอาหารกลางวันอยู่นั้น ขอบอกว่าโรงเรียนยังไม่ได้ปิด จะปิดในวันที่ 31 มี.ค.66 ซึ่งในช่วงนี้เด็กยังต้องมาโรงเรียนเราจะต้องมีอาหารให้เด็กได้กิน ส่วนที่ใช้เกลือแทนน้ำปลานั้นยอมรับว่าเกลือนั้นมาจากธรรมชาติ มีไอโอดีนและมีประโยชน์กว่าน้ำปลา ซึ่งมีรสชาติเหมือนกัน และจะประหยัดมากกว่าการใช้น้ำปลาและกลิ่นไม่รบกวนใคร ส่วนซอสปรุงรสอย่างอื่นนั้นมีทุกอย่าง แต่ในส่วนของผงปรุงรสนั้นทางโรงเรียนต้องตักแบ่งใส่ถุงให้แม่ครัวใช้ในแต่ละวัน
เพราะที่ผ่านมา แม่ครัวใส่เยอะเกินไปซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงต้องจำกัดปริมาณในการใส่ จึงทำให้แม่ครัวไม่พอใจ และที่ต้องให้แม่ครัวออกเพราะเงินที่จ้างแม่ครัวนั้นเดิมเคยจ้าง 1 คน วันละ 300 บาท อาทิตย์ละ 1,500 บาท แต่ต้องมาจ้างแม่ครัว 2 คน ซึ่งจ้างวันละ 250 บาท รวมเป็นเงินวันละ 500 บาท อาทิตย์ละ 2,500 บาท ทำให้ต้องเจียดเงินค่าอาหารเด็กมาจ่ายจึงได้เชิญแม่ครัวออกไป เพราะไม่สนองนโยบาย ผอ.
ที่ผ่านมาพยายามที่จะไปหาเด็กในชุมชนมาเรียนจนทำให้ตอนนี้กลายเป็นโรงเรียนขนาดกลาง เพราะมีเด็กเกิน 120 คน แม้ว่าขณะนี้ผู้ปกครองบางส่วนอาจจะอยากให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียนนี้ บอกว่าจะย้ายออกไปก็ต่อเมื่อ ผอ. มีความผิดจริง และขอยืนยันว่ามีเจตนารมณ์ที่ทำให้โรงเรียนแห่งนี้แข็งแกร่ง และจะไม่ปล่อยให้โรงเรียนนี้เป็นเครื่องมือของเกมใดๆ ทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอาจจะมีผิดระเบียบบ้างแต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ทุจริต