วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟตะนาวศรี ราชบุรี ปรับตัวหันมาปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า จากเดิมปลูกสับปะรดราคาดิ่งเหว จนพลิกฟื้นชีวิต รวมถึงสร้างอาชีพให้ชาวกะเหรี่ยง
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.64 นายเสน่ห์ แคนเพ็ชร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟตะนาวศรี ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวว่า ที่นี่เป็นพื้นที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ที่จัดสรรให้ชาวบ้านทำกินการเกษตร ซึ่งเดิมทีปลูกสับปะรด แต่เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วเกิดวิกฤติราคาตกต่ำ เหลือแค่กก.ละ 2-2.50 บาท วันหนึ่งมีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานที่ จ.ชุมพร และเห็นการปลูกกาแฟ จึงขอซื้อต้นกาแฟพันธุ์โรบัสต้ามาทดลองปลูก ควบคู่กับปลูกสับปะรด และเมื่อได้ผลผลิตก็ทดลองนำมาคั่วแล้วนำมาชงกาแฟดื่มเองก่อน พบว่ามีรสชาติที่หอมชวนดื่ม จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ ให้มาลองดื่มก็พบว่าทุกคนถูกใจและติดใจในรสชาติ จึงคิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะสับปะรดเน่าเสียง่ายเก็บได้ไม่นาน ส่วนเมล็ดกาแฟไม่มีเน่าเสีย เมื่อสุกนำมาตากให้แห้งแล้วเก็บไว้เวลาที่เราต้องการดื่มก็นำมาคั่ว ซึ่งดีกว่าปลูกสับปะรด

“นอกจากนี้ยังได้ชักชวนเพื่อนบ้านให้ปลูกด้วย โดยรวมกันเป็นกลุ่มใช้ชื่อว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟตะนาวศรี และด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศเหมาะสำหรับปลูกกาแฟสายพันธุ์ดังกล่าว เนื่องจากมีสภาพอากาศร้อนชื้นและพืชกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าก็สามารถเจริญเติบโตได้ดีในระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 300-400 ม.”
ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟตะนาวศรี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกลุ่มมีสินค้าโอทอปและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกาแฟหลากหลาย อาทิ กาแฟบด ที่ใช้เป็นกาแฟดริปที่ผ่านกระบวนการคั่วใน 3 ระดับ ได้แก่ คั่วอ่อน คั่วปานกลางและคั่วเข้ม โดยเฉพาะคั่วเข้มนั้นจะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสบู่กาแฟ นอกจากนี้ยังมีชาดอกกาแฟ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของกลุ่ม โดยใช้ดอกกาแฟมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต เนื่องจากช่วงที่กาแฟออกดอกนั้นยังไม่มีสารกาเฟอีน สรรพคุณมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอวัย ที่สำคัญเวลาดื่มจะไม่มีกลิ่นและรสชาติของกาแฟแต่อย่างใด ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจเรื่องกาแฟทั้งการปลูกกาแฟ คั่วกาแฟ และวิธีการปรุงรสชาติให้ถูกปากคนดื่ม โดยในแต่ละวันจะมีผู้ที่แวะเวียนทั้งเข้ามาดื่มกาแฟ และมาศึกษาหาความรู้โดยตลอด

“วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟตะนาวศรีไม่เพียงแต่คิดค้นผลิตภัณฑ์จากกาแฟเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับสมาชิกเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสให้กับกลุ่มชนเผ่าชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว รู้รักสามัคคี ถือว่าส.ป.ก. ได้สร้างโอกาสให้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ส.ป.ก.ราชบุรี และ ธ.ก.ส.ราชบุรีที่เข้ามาให้ความรู้วิชาการ การเพาะปลูก การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้นำในการรวมกลุ่มวิสาหกิจ การจัดหาแหล่งเงินทุน รวมทั้งให้กำลังใจ ให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องต่างๆ” นายเสน่ห์ กล่าว.