วันนี้(10 ก.ค. 64)ที่โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ในตำบลเจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ที่ปรับสร้างขึ้นมาอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 คลัสเตอร์ตลาดศรีเมือง หลังพบว่ามีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด มากกว่า 70 คน จนทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจ.ราชบุรี ได้มีคำสั่งปิดอาคารที่เป็นต้นตอในการพบผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 5 วัน โดยให้เริ่มจากวันที่ 10 – 14 ก.ค. โดยได้มีการทยอยนำผู้ที่ติดเชื้อมาพักไว้ที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้พร้อมกับมีแพทย์และพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี คอยดูแล ซึ่งการปรับสร้างโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่นี้เป็นการสร้างขึ้นมาอย่างเร่งด่วนทำให้ยังขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก
ทำให้ทางวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ วัดจีนปอเอง (ซำปอกง) ร่วมกับนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งมีทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผงซักฟอก สบู่ อาหารแห้ง น้ำดื่ม แอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย มามอบให้กว่า 200 ชุด ทั้งนี้เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม โดยมีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และแพทย์หญิง ปาจารีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ราชบุรี
ด้านนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่จ.ราชบุรี นั้นมีโรงพยาบาลสนามทั้งหมด 6 แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมืองนั้นมีอยู่ 3 แห่ง ซึ่งทุกแห่งได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วย โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ติดตั้งมิเตอร์ให้ใหม่โดยไม่คิดค่าไฟฟ้า และขอบคุณทางกองทัพบก ที่ส่งรถมาช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เป็นคลัสเตอร์ตลาดศรีเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม เป็นการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ส่วนที่อำเภอดำเนินสะดวกมีเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียวที่รอวันกักตัวครบและจะได้กลับบ้าน นอกจากนี้ยังที่อำเภอบ้านโป่ง และอำเภอโพธาราม ซึ่งในอำเภอใหญ่ๆทางจังหวัดก็จะให้มีการจัดสร้างโรงพยาบาลสนามที่รองรับผู้ป่วยสีเขียว เพื่อให้ตัวโรงพยาบาลซึ่งมีภาวะของผู้ป่วยที่ค่อนข้างแน่น ถ้าย้ายผู้ป่วยสีเขียวออกมาก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดทำโรงพยาบาลสนามนั้น ทุกแห่งจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายจากทางราชการได้ แต่ในบางส่วนนั้นก็จะต้องขอรับการบริจาคจากทางภาคเอกชน ซึ่งขอเน้นย้ำว่าประชาชนชาวจ.ราชบุรีที่เจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่จ.ราชบุรี จะต้องมีเตียงรองรับให้ได้ จึงต้องมีการขยายและเตรียมการในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่องรองรับผู้ป่วยให้ได้
