เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ราชบุรี – สุดทนถูกเพื่อนบ้านญาติแท้ ๆ คุกคามนานนับ10 ปี ทั้งจุดพลุใส่ ด่าทอ เคยมุดมุ้งแม่ และแอบดูอาบน้ำ เคยไปแจ้งความดำเนินคดีแต่ไม่มีอะไร แต่ไม่รับการช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า คุกเต็มให้โดนทำร้ายก่อน แล้วมาแจ้งความ
จากกรณีที่มีเฟซบุ๊ก ชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 โดยมีเนื้อความว่า ” พี่คะหนูอยากจะขอร้องให้พี่ช่วยหน่อยได้ไหมคะหนูและครอบครัวโดนกลั่นแกล้งต่างๆนานาไม่หยุดหย่อนเลยค่ะ ไปแจ้งตำรวจก็ได้แต่บันทึกประจำวันแล้วก็บอกว่าช่วงโควิด คุกเต็ม ถ้าโดนทำร้ายค่อยมาแจ้งใหม่นะ แล้วคือวันที่ไปแจ้งเขาขู่จะฆ่าหนู ถือมีดจะมาอยู่เเล้ว แต่แม่ตะโกนบอกให้แจ้งตำรวจ เขาก็รีบเอามีดไปเก็บ หนูพูดไป ชาวบ้านก็ไม่เชื่อเขาว่าเป็นคนนี้ เพราะว่าดูเหมือนเป็นคนดี หนูไม่รู้จะทำยังไงไม่รู้แล้วค่ะ ว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร ครอบครัวยากจนไม่มีคนสนใจ ถ้าจะรอเขาทำร้ายก็ไม่รู้จะรอดหรือเปล่าค่ะ”
” เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา หนูเรียนออนไลน์อยู่บ้านคนเดียว เขาก็จุดพลุโยนมาตรงข้างๆที่หนูนั่งเรียน หนูรีบโทรหาแม่เขาก็เดินทำหน้าทำตาออกไปเหมือนด้วยท่าทีสะใจ และเมื่อวานนี้(27 ม.ค.) รอบนี้กลางคืนค่ะ จุดพลุลูกใหญ่ใส่บ้านหนูดังลั่นเลยค่ะชาวบ้านก็ได้ยินนะคะ เเต่ก็ไม่มีใครช่วยอะไร หนูไม่รู้จะทำอย่างไร บ้านก็ยากจนหนูอยากจะหนีไปไกลๆ แต่หนูก็หนีไม่ได้สักทีค่ะ มันทั้งไม่ปลอดภัย ทั้งหวาดระแวง ไม่มีคนช่วยหนูเลย หนูเครียด กังวลจนบางทีคิดว่าหนูจะตาย หนีเขาไปแบบไม่ต้องเจอเขาอีกเลยแต่หนูก็เป็นความหวังเดียวของครอบครัว พอมาคิดดูว่าถ้าตายก็ยิ่งจะพาพ่อแม่และครอบครัวหนีไปจากที่นี่ไม่ได้ พ่อแม่อายุจะ 50 ปี แล้วยายก็กำลังป่วย หนูแค่อยากมีชีวิตที่สงบสุขปลอดภัยเหมือนกับคนทั่วไปเขาได้ใช้ชีวิตกันแค่นั้นเองค่ะ เขาคนนี้ติดคุกมา 5 ครั้ง เขาทำอะไรไม่เกรงกลัวกฎหมาย เลยสำหรับบ้านหนูเขาโกหกเก่งมาก เปลี่ยนจากหนูเป็นฝ่ายถูกกระทำให้กลายเป็นฝ่ายกระทำเขาชาวบ้านก็เชื่อด้วย หนูเหนื่อยมากเลยค่ะพี่”
วันนี้(28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ บริเวณต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อพูดคุยกับ น.ส.ณัฐธีรา เกิดแจ่ม อายุ 18 ปี น้องเอ หลานสาวของนายเอก คนที่อยู่ในคลิปเกิดเหตุ จากการพูดคุยเบื้องต้นทราบว่า นายเอกกับน้องเอเป็นตาหลานกัน นายเอก ชอบมาหาเรื่องที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ตนเคยไปให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ช่วยเหลือก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย มีการจุดพลุเข้ามาในบ้าน และยังเคยมามุดมุ้งแม่ของตนที่นอนอยู่แต่โชคดีที่พ่ออยู่ด้วยในวันนั้น ซ้ำยังแอบดูแม่ของตนอาบน้ำ อีกส่วนตัวน้องเอก็คิดที่อยากจะย้ายบ้านหนีแต่เนื่องจากที่บ้านมีฐานะยากจน จึงทำให้ต้องทนอยู่ต่อไป
น.ส.ณัฐธีรา กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนเองต้องเป็นฝ่ายระแวงว่าเขาจะมาเราก็ต้องคิดว่าจะโดนกระทำอะไรหรือไม่ ตนอยากอยู่ด้วยความปลอดภัย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่เด็ก ๆ แม่บอกว่าเคยเอาเท้าเหยียบท้องตนเองจนร้องและพ่อก็แทบจะไปทำร้ายเขา และก็มาก่อเหตุกับแม่ที่ไปมุดมุ้งแม่ มาดูแม่อาบน้ำ มีการจุดพลุใส่ตน เมาก็มาตะโกนด่า และต่อยแม่แต่ไปโดนพ่อ ตนอยากอยู่ที่บ้านแบบสงบ ๆ ตนไม่เคยไปยุ่งกับเขาเลย ส่วนสาเหตุ ก็น่าจะมาจากที่เขาไปมุดมุ้งแม่ แต่ไม่สำเร็จ และก็มาอยู่ในที่ ๆ เป็นของเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะติดหนี้ ธกส. และกำลังจะถูกขายผ่านธนาคารไป
“ตนเองอยากย้ายออกจากที่นี่ตลอดเวลา ตนอยู่ใกล้กับเขาเหมือนอยู่ในนรก แต่ที่ไม่ได้ย้ายออกก็เพราะที่บ้านจน ไม่มีเงินที่จะย้ายออก แม่ก็บอกว่าให้ตั้งใจเรียนและประสบความสำเร็จแล้วย้ายหนีไป เคยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางตำรวจก็บอกว่าถ้าโดนทำร้ายร่างกาย ถึงจะจับได้ ตนก็บอกว่าเขาเสพยา มีคนเข้าออกเยอะมากและบ่อยมาก จนตนกลัว ตนเคยนอนในวันที่เขาไม่อยู่ 23 ชม. รู้สึกมีความสุขมากเดินเข้าบ้านอย่างไม่ต้องแคร์อะไรมันทำให้รู้สึกว่า ตอนที่ไม่มีเขารู้สึกดีมากเลย”
ด้านนายเอก กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ยอมแล้ว แล้วที่บอกว่าตนกลั่นแกล้งแบบไหนบ้าง ส่วนที่บอกว่าตนเคยไปขึ้นคร่อมแม่และไปดูแม่อาบน้ำนั้น ตนบอกได้ว่าไม่เคย เอาหลักฐานมาได้เลย เพราะตนเองไม่เคยทำ ทุกคนรู้หมดว่าตนเป็นเป็นยังไง ซึ่งวันนั้นที่ไปแถว ๆ ห้องน้ำ เพราะตนไปเก็บมะม่วง เนื่องจากมีน้อง ๆ แถวบ้านบอกว่ามีมะม่วงอยู่ก็เลยไปเก็บ แต่ที่น้องบอกว่าข้างบ้านก็มีทำไมไม่เก็บ เพราะเนื่องจากวันนั้นไม่มี ถ้ามีตนก็คงไม่เดินไป เด็กนิสัยแบบนั้นอยู่แล้ว ตนไม่ขอออกความคิดเห็น และบ้านหลังที่แม่ลูกคู่นี้อยู่ ขอให้รื้อออกจากที่ไปเลย เพราะตนเป็นทายาท ซึ่งชื่อเป็นของพ่อตน อยากให้ออกไปจากพื้นที่นี้ไม่อยากให้เขาอยู่ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกันก็ตาม
ต่อมาทางเทศบาลตำบลบลบ้านฆ้อง พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ได้พาน้องเอและแม่ ไปพูดคุยรายละเอียดที่เกิดขึ้น ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า ทางน้องเอ และครอบครัวตกลงกับทางเทศบาลว่าจะจัดหาเจ้าหน้าที่เพื่อมาระวังเหตุให้ทุกวัน โดยจะสับเปลี่ยน และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวถ้า น้องเลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อ ต่างคนก็ยังอยู่บ้านหลังเดิม
ด้านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านฆ้องได้นัดนายเอกเข้ามาพูดคุยเพื่อเตรียมทำข้อตกลง ว่าถ้ามีเหตุการณ์ลักษณ์เดียวกัน นี้อีกก็จะดำเนินคดีกับนายเอก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่บอกว่าคุกเต็ม กำลังตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดที่เป็นพูดลักษณะนี้







