เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ราชบุรี ในงานศพของ นางศศิวิมล เอี่ยมคะนา อายุ 56 ปี มีการประดับตกแต่งงานซึ่งต่างจากงานศพทั่วไป เนื่องจากมีการประดับภาพบ่าวสาว และบุตร อย่างพร้อมหน้า อีกทั้งผ้าม่านกั้นฉากหลังจับจีบห้อยระย้าออกแนวสีโทนม่วง ตลอดจนทางเข้าประตูมีสมุดลงนามอวยพรคู่บ่าวสาว
นอกจากนี้ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะพบกับการตกแต่งดอกไม้สีขาวเป็นรูปนกยูงคู่ตัวใหญ่กำลังรำแพนหาง โดยระหว่างกลางจะมีรูปของนางศศิวิมลประดับอยู่ ด้านข้างมีพวงหรีดเขียนชื่อบุคคลต่างๆ ไว้ ซึ่งทั้งพวงหรีดดอกไม้สด พวงหรีดพัดลม และสิ่งของ วางเป็นแถวยาว
นายปิยะลาภ แจ่มจันทร์ เจ้าของร้านราชบุรีหีบทองและดอกไม้สด เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่มารับจ้างจัดดอกไม้ให้เป็นโทนที่ออกเรียบหรูดูดี แต่พอมาถึงที่วัดก็มาเห็นรูปเจ้าสาว ซึ่งนำมาทำเป็นรูปตั้งหน้าโลงศพ จึงถามเจ้าภาพไปว่าต้องการให้ออกมาเป็นแบบไหน เพราะเขาถ่ายเป็นแบบพรีเวดดิ้งไว้ เขาก็เลยนำเอาอัลบั้มมาให้บอกว่าให้ตนไปออกแบบการจัดงาน ประกอบกับผู้เสียชีวิตชอบสีม่วง จึงคิดนำงานแต่งงานมาเสนอให้เจ้าภาพ ซึ่งก็บอกว่าถูกใจ และไม่เคยมีใครทำงานศพมีซุ้มถ่ายภาพ มีรูปครอบครัวในชุดแต่งงาน ทุกคนดูแปลกตา
นายปิยะลาภ กล่าวอีกว่า หลายคนงง บอกว่ามางานศพแล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่พอมาด้านในก็พบงานอีกแบบ ซึ่งเจ้าภาพรักภรรยามาก จะทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เศร้า แต่ให้ดูอบอุ่น ทั้งนี้ การจัดงานแบบนี้หลายคนบอกว่าแปลกตา ไม่เศร้า และทางเจ้าภาพก็พอใจ
ด้าน พ.อ.ไพรวัน เอี่ยมคะนา อายุ 59 ปี อดีตนายทหารนอกราชการ ชาว ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี สามีของนางศศิวิมล เอี่ยมคะนา ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุที่จัดงานแบบนี้เพราะไม่เคยแต่งงานกัน ได้แต่จดทะเบียนสมรสกัน จึงอยากจะจัดให้เขา
พ.อ.ไพรวันระบุว่า หลังจากเคยถ่ายพรีเวดดิ้งไว้ จึงระลึกถึงภาพในอดีต นำมาจัดงานให้ในวันที่เขาเสียชีวิตจากการล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง ประมาณ 3 เดือนก็เสียชีวิต ปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 3 คน อยู่กันมา 35 ปี แล้ว ตั้งใจที่จะเก็บศพภรรยาไว้ที่บ้าน 2 ปี เพื่อรอให้ลูกชายคนเล็กครบกำหนดที่จะบวชให้ก่อน จึงจะนำร่างภรรยาไปเผา เพื่อให้เขาไปสู่สุคติภพที่ดี
“เป็นความรัก ความผูกพันที่มีให้กัน ไม่มีวันลืมกัน อยากจัดงานครั้งนี้เป็นที่ระลึกครั้งสุดท้าย อยากจะทำให้ดีที่สุดสำหรับคนที่รักที่สุดในชีวิต” พ.อ.ไพรวันกล่าว