โจรจี้ชิงทองที่ราชบุรีหนีมาในพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เจอตำรวจล้อมจนมุมปิดห้องยิงตัวตาย รอง ผบ.ตร. รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบทองของกลาง 11 เส้น หายไป 2 เส้น ตร.เร่งค้นหาติดตามต่อ
จากเหตุการณ์คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทองที่ห้างทองเยาวราชเอเชีย ภายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้สร้อยทองรูปพรรณไป 10 เส้น รวมน้ำหนัก 47 บาท มูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท ก่อนขับรถกระบะหลบหนีไปอย่างลอยนวล เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.48 น. วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง และกำลังชุดสืบสวน ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี แบ่งทีมทำงานออกเป็น 3 ชุด คือ ชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จ.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี รวมถึงลักษณะรูปพรรณของคนร้าย และภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ทราบว่า คนร้ายหลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ แบบมีแค็บ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีจากลานจอดรถของห้าง มุ่งหน้าบนถนนทรงพลเข้า อ.บ้านโป่ง เลี้ยวซ้ายตรงแยกสัญญาณไฟหัวโป่ง วิ่งตามถนนเลียบคลองชลประทานหัวโป่ง-สวนกล้วย โดยกล้องวงจรปิด จับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ก่อนมุ่งหน้า อ.โพธาราม เขตติดต่อพื้นที่ อ.บ้านโป่ง คาดคนร้ายเตรียมการมาอย่างดี โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลังออก และยังใช้ผ้าเทปสีขาวพันนิ้วมือไว้เพื่อป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ก่อนลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจดังกล่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มี.ค.64 พ.ต.ท.ประภาส หลำเพิกสืบ สารวัตรเวร สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุบุคคลใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านยางน้ำกลัดใต้ ตำบลยางน้ำกลัดใต้ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วันชาติ ม่วงศรี ผกก.สภ.หนองหญ้าปล้อง ทราบ แล้วตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายสุกฤษฏิ์ มีทรง อายุ 28 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้ต้องสงสัยคดีปล้นร้านทองพื้นที่ จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เอกสารรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นลำดับชั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานแพทย์โรงพยาบาลหนองหญ้าปล้องและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมตรวจสอบ
ต่อมาเวลา 14.50 น. วันที่ 6 มีนาคม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังที่เกิดเหตุ และสั่งกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าในที่เกิดเหตุ จากนั้น เวลาประมาณ 16.50 น. หรือ พล.ต.อ.สุชาติ จึงอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมนำทรัพย์สินที่ยึดได้จากผู้ตายทั้งหมดมาแถลงข่าว
ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักลักษณะห้องเดี่ยว 2 เตียง ด้านข้างพบ รถกระบะอีซูซุ ตอนครึ่ง สีขาว หมายเลขทะเบียน ผฉ 3861 นครปฐม จอดอยู่ ในห้องน้ำในห้องพักในห้องนอนชั้นล่าง พบศพนายสุกฤษฏิ์ ผู้เสียชีวิต ใส่กางเกงขายาวสีเขียวเสื้อยืดคอกลมสีนำ้เงิน นั่งพิงมุมห้องนำ้เสียชีวิตอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณศีรษะขวาทะลุหลังหูด้านซ้าย ใกล้กันพบปืนขนาด .380 ซุปเปอร์ตกอยู่ 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 1 ปลอก ที่เตียงนอนพบกระเป๋าสะพายภายในพบ สร้อยคอทองคำจำนวน 11 เส้น กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนทราบเส้นทางการหลบหนีคนร้ายและพบว่าเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในรีสอร์ตหลังดังกล่าว จึงได้ติดตามเข้ามาและวางกำลังกดดัน ขณะนั้นผู้ต้องหาเปิดประตูหน้าต่างห้องชะโงกดู และเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงหลบเข้าห้องจากนั้นไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตำรวจจึงทุบกระจกเข้าไปตรวจสอบในห้องและพบศพดังกล่าว
รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของกลางเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า ขณะก่อเหตุคนร้ายได้สร้อยคอทองคำไปประมาณ 13 เส้น ขณะนี้ พบของกลางในที่เกิดเหตุเป็นสร้อยคอทองคำจำนวน 11 เส้น ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ของผู้ตายที่วางอยู่บนเตียงนอน หายไป 2 เส้น โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้สอบถามความชัดเจนจากร้านทองอีกครั้งว่า จำนวนทองที่ถูกจี้ไปมีจำนวนเท่าใด หากยังมีการสูญหายจะได้ติดตามต่อไป.
