6ล้อหัวร้อน ขับปาดหน้ารถนักเรียน ก่อนลงมาดึงกุญแจและปาใส่ โดนเด็กบาดเจ็บ ซ้ำ ขับไล่ตามจี้ ปาดซ้าย-ขวา ให้ลงข้างทาง ลงมาต่อยลุงคนขับ ผู้ปกครองต้องเข้าห้าม
จากกรณีมีการเผยแพร่เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “มีคนขับรถบรรทุกเจอคดีอะไรบ้าง ผู้ปกครองแจ้งมาว่าตำรวจปล่อยตัวไปแล้ว หรือประกันตัวออกไป คุมสติและอารมณ์ไม่ได้ ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม ชุมชนมาก ๆ พิกัด ม.3 ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี 6 ล้อขับรถบีบแตรไล่รถนักเรียน ที่หน้าตลาดเบิร์ดคลองถม จุดแรกลงมาดึงกุญแจแล้วเขวี้ยงใส่โดนนักเรียน คนขับรถประจำก็ไม่ตอบโต้
6ล้อหัวร้อน ขับปาดหน้ารถนักเรียน ก่อนลงมาดึงกุญแจและปาใส่ โดนเด็กบาดเจ็บ
จุดที่ 2 ยังจะตามขับรถไล่บี้ จนมาจอดส่งนักเรียนที่บ้าน ยังปาดหน้าแล้วลงมาต่อยคนขับรถประจำไปอีก เด็กนักเรียนเต็มท้ายรถ ทั้งตกใจ ร้องไห้ ขวัญเสียไปหมด แจ้งความก็ปล่อยตัวกลับบ้าน #แม่จะเอาเรื่องถึงที่สุด”
ล่าสุดวันที่ 13 ม.ค.2566 ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ม.3 ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี นายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี อาชีพขับรถรับส่งนักเรียน พร้อมชาวบ้านและผู้ปกครองที่นั่งรถคันดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่รับนักเรียนมาครบแล้วกำลังเดินทางกลับ ถึงบริเวณสะพานต่างระดับ หน้าห้างบิ๊กซี เห็นว่ามีอุบัติเหตุอยู่ด้านหน้า ตนจึงหักออกขวา เพราะมองแล้วว่าทางโล่ง เพื่อจะหลบ ก่อนจะเลยจุดเกิดอุบัติเหตุ ก็หักรถเข้าซ้าย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สักพักก็รู้สึกว่ามีรถ 6 ล้อมาชนท้าย แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเพราะแค่เล็กน้อย และเด็ก ๆ ก็ไม่ได้มีบาดแผลอะไร สักพักรถ 6 ล้อคันดังกล่าว ก็ตามมาปาดหน้าและลงมาดึงกุญแจ ก่อนจะปาใส่ไปโดนเด็กอีก 2 คน ทราบชื่อคนขับรถ 6 ล้อ คือ นายจักรพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี หลังจากนั้นตนก็ได้คว้ากุญแจก่อนจะขึ้นรถไปเพื่อที่จะส่งเด็กที่บ้านตามหน้าที่
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ระหว่างทางเด็ก ๆ บอกว่ารถ 6 ล้อคันดังกล่าวได้ขับตามจี้ติดท้ายรถมาตลอด พยายามเบียดรถให้ตกข้างทางบ้าง แกล้งเบรกกระชั้นชิดบ้าง จนมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณ ม.3 ต.บางป่า ตนตัดสินใจจอดรถหน้าบ้านผู้ปกครอง ด้านรถ 6 ล้อก็ตามมาปาดหน้า ก่อนจะลงมาต่อยตน ด้านผู้ปกครองเห็นจึงเข้าไปล็อกตัวนายจักรพันธ์ เพื่อไม่ให้เข้าไปทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ผู้ปกครองจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ให้มาระงับเหตุ
ด้าน นายธนภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ปกครองของเด็กที่อยู่บนรถ กล่าวว่า ลูกสาวโทรบอกว่าเกิดเหตุมีรถ 6 ล้อไล่บี้มาตลอดทาง เราก็ไม่รู้ว่าในรถมีคนเยอะหรือน้อย เป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ๆ เลยบอกไปว่าไม่ต้องให้ส่งที่ไหนเลยให้มาส่งที่หน้าบ้านจะได้ไม่ต้องจอดที่ไหนอีก ตนอยู่หน้าบ้านมองไปบนถนนเห็นรถ 6 ล้อเร่งเครื่องควันดำ และพยายามเบรกจี้ตลอด
นายธนภัทร กล่าวต่อว่า พอมาจอดหน้าบ้านก็ตามมาปาดหน้าก่อนที่ตนจะบอกให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุยกัน แต่ก็ไม่ฟัง ลงไปต่อยหน้าคนขับรถก่อนเลย ตนเห็นก็เลยเข้าไปห้ามและถามถึงสาเหตุ ทางรถ 6 ล้อ บอกว่านายสมศักดิ์ตั้งใจเบรกให้รถ 6 ล้อชนท้าย ตนจึงบอกว่าเขามีเด็กนักเรียนมาเต็มคันรถใครเขาจะไปตั้งใจเบรกเพื่อให้ชนท้าย
นายธนภัทร กล่าวอีกว่า แทนที่คุณขับรถใหญ่จะมีจิตสำนึกถึงเด็ก ๆ ส่วนคนขับรถก็มีอาการโมโหอยู่ตลอด และพยายามจะขึ้นรถ ตนก็ยึดเอาไว้และบอกให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ซึ่งลักษณะคล้ายคนเมา แต่ตรวจหาสารต่าง ๆ ไม่เจอ พบเพียงน้ำกระท่อม 1 ขวดอยู่ภายในรถเท่านั้น
ขณะที่ ด.ช.เอ (นามสมมติ) นักเรียนที่อยู่บนรถคันดังกล่าว เล่าว่า ตรงบริเวณสะพานบิ๊กซีมีอุบัติเหตุอยู่ พอรถจะเลี้ยวขวา รถ 6 ล้อก็มาชน หลังจากนั้นก็ไล่กวดพร้อมกับบีบแตรจนมาถึงสะพาน ก็ตะโกนมาว่า ให้จอดรถประจำก็ได้ขับขึ้นสะพานไปจนถึงซอยลิเก เขาได้ลงมาพร้อมพูดด้วยคำที่หยาบคาย และคว้ากุญแจออกไปเขวี้ยง
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า ซึ่งตอนนั้นนั่งกันมาในรถ 10 กว่าคน ตกใจกันทั้งรถ หลังจากนั้นเขาก็ยังขับตามมาและพยายามเบี่ยงซ้าย ขวา จนมาถึงสะพานเขาก็พยายามเบียดขึ้นมาให้ตกข้างทาง ไปชนตอหม้อ จนมาถึงหน้าบ้านและก็มาทำร้ายดังกล่าว
ทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมทั้งยืนยันว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผลการตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดกับคนขับรถทั้ง 2 คัน เบื้องต้นไม่พบ ส่วนการตั้งข้อกล่าวหานั้นแยกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องของการทำร้ายร่างกายนั้นผิดชัดเจน ก็ตั้งข้อกล่าวหากับคนขับรถ 6 ล้อ
ส่วนเรื่องของการขับรถประมาทนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าใครคือคนที่เริ่มต้นขับรถประมาท โดยจะต้องไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อน