90 นาที ที่ สามอ่าว สเตเดียม เกมระหว่าง พีที ประจวบฯ กับ ราชบุรี มิตรผลฯ เป็นไปอย่างอึดอัดเมื่อต่างฝ่ายต่างทำประตูไม่ได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทั้งสองทีมยังขาดๆเกินๆคือสภาพร่างกายของนักเตะที่อ่อนล้ากับโปรแกรมสุดถี่แบบนี้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการโรเตชั่น แต่ความสดก็ถดถอยไปพอสมควร ซ้ำร้าย เจ้าบ้าน ต่อพิฆาต ต้องเสียตัวทำเกมอย่าง วิลเลียม เอ็นริเก ตั้งแต่ครึ่งแรก ส่วน ราชบุรีฯ ขยับส่ง สตีเว่น ล็องจิล และคาราบูเอ หมายช่วงชิงความได้เปรียบ แต่กลับแผลงฤทธิ์ไม่ออกเช่นกัน
เกมทำท่าจะเสมอ ต่างฝ่ายต่างเน้นรัดกุม เพราะด้วยสภาพทีม และรูปเกมทำให้ไม่สามารถเปิดหน้าแลกได้เต็มที่ แต่แล้วช่วงทดเจ็บเกมสนุกขึ้นมาทันทีเมื่อ ประจวบฯ ได้ลูกจุดโทษจากการเช็ค VAR และเป็น วิลเลน โมต้า ยิงขึ้นนำ 1-0 และทำท่าว่า 3 แต้มนี้ต้องตกเป็นของเจ้าบ้านแน่นอน
ทว่าช่วงต่อเวลาที่ทดยาวไปเป็นร้อยนาทีก็ทำให้ทีมเยือนสามารถยิงตีเสมอ เมื่อได้ลูกจุดโทษจากการเช็ค VAR ก่อนที่ ฟิลิป โรลเลอร์ จะยิงไปติดเซฟ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี แต่จากการเช็ค VAR แสดงให้เห็นว่า มีกองหลังประจวบพุ่งเข้าไปในเขตโทษก่อนทำให้ ราชบุรี ได้ยิงใหม่ โดยสลับให้ สตีเวน ล็องจิล รับหน้าที่สังหาร ก่อนจบเสมอ 1-1
การพลาด 3 แต้มที่อยู่เพียงเอื้อมมือส่งผลกระทบต่อ ประจวบ อย่างยิ่ง เพราะนั่นทำให้พวกเขาต้องหนีโซนตกชั้นด้วยความยากลำบากต่อไป ส่วน ราชบุรี ที่พยายามไต่อันดับหัวตารางคงต้องหาทางโรเตชั่นรักษาสภาพนักเตะต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาเองก็กังวลมาตลอด หากผู้เล่นกลับมาฟิตพร้อมกว่าที่ผ่านมา เกมบุกของ ราชันมังกร จะกลับมามีเขี้ยวเล็บน่ากลัวอีกครั้งแน่นอน