เผย วัดร้างลับบนหน้าผาใน จ.ราชบุรี คือ สำนักสงฆ์ เขาช้างถ้ำพลองของ หลวงพ่อคง จันทโชโต ในอดีตที่ปิดตัวไปกว่า 40 ปี ต่อมาได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่แล้ว โดยยังให้เที่ยวชมได้แต่ห้ามปีนขึ้นด้านบน
จากกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกชื่อ chayaphat bhumalee โพสต์วิดีโอและข้อความระบุว่า” วัดร้างลับบนหน้าผา มีทางขึ้นเดียวก็คือ ปีนเถาวัลย์ขึ้นบันได ข้างบนมีถ้ำวัดร้าง มีพระพุทธรูป และรูปเขียนฝาผนัง พิกัด อยู่ที่ราชบุรี จนเป็นกระแสใสโลกโซเชียลในขณะนี้
ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังถนนสายเขาช้าง-ทุ่งหลวง หมู่ที่ 8 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ดังกล่าวตามในคลิปวิดีโอ จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่ดังกล่าว เป็นบันไดที่สร้างติดกับหน้าผาของเขาช้าง ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมและหักชำรุดเสียหาย มีเถาวัลย์และใบไม้ขึ้นปกคลุม โดยพื้นที่บริเวณใกล้เคียงโดยรอบมีทั้งศาลา พระนอน หอระฆัง และที่เก็บอัฐิของ หลวงพ่อคง จันทโชโต เจ้าสำนักสงฆ์ เขาช้างถ้ำพลอง ซึ่งเป็นพระภิกษุสงฆ์บุกเบิกสร้างสถานที่ดังกล่าวขึ้นมา เมื่อเกือบ 100 ปี ทั้งท่านยังเป็นพระภิกษุสงฆ์สร้างโรงเรียนบ้านเขาช้างขึ้นมาด้วย
แต่ต่อมา หลวงพ่อที่อยู่ต่อจากท่านไม่สามารถดำเนินการบูรณะสถานที่ดังกล่าวให้กลายเป็นวัดได้ เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ จึงได้ย้ายไปสร้างวัดเขาช้าง ห่างจากจุดสำนักสงฆ์เกือบ 3 กม. และปล่อยที่นี่ให้ร้างจนมีต้นไม้ขึ้นรกเต็มพื้นที่มากว่า 40 ปี ซึ่งสถานที่ดังกล่าวยังมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนที่เรียกว่าเขาช้าง เพราะถ้ามองระยะไกลจะเห็นเขาลักษณะคล้ายช้างสองตัวกำลังชนกัน
ด.ต.ยงยุทธ ผลเอนก นายก อบต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้แต่เดิมหลวงพ่อคง มาสร้างไว้เป็นสำนักสงฆ์ ชื่อสำนักสงฆ์เขาช้างถ้ำพลอง ที่มีอายุเกือบ 100 ปีแล้ว ซึ่งช่วงหลวงพ่อยังมีชีวิตท่านได้บูรณะพัฒนามาเรื่อยๆ จนท่านมรณภาพ มีหลวงพ่อองค์อื่นมาอยู่แทน และพัฒนาต่อ “จนมีประกาศให้ยุบสำนักสงฆ์ คงเหลือแต่วัดไว้” ซึ่งสำนักสงฆ์เขาช้างตั้งอยู่ในเขตป่าไม้ ทั้งมีพื้นที่จำกัดจึงไม่สามารถพัฒนาเป็นวัดได้ จึงจำเป็นต้องย้ายไปสร้างวัดในพื้นที่หมู่ 7 ที่อยู่ใกล้เคียงกันห่างประมาณเกือบ 3 กม. ซึ่งปัจจุบันคือ วัดเขาช้างมงคลวนาราม นั่นเอง
นายก อบต.หนองกระทุ่ม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางอำเภอ และ อบต. ได้ปรึกษากับทางกรมศิลปากร หาทางบรูณะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาหลายครั้งแล้ว แต่เนื่องด้วยติดขัดเป็นพื้นที่ป่าไม้ ต้องได้รับอนุญาตกับทางกรมป่าไม้ จึงไม่สามารถเข้ามาพัฒนาสถานที่แห่งนี้ได้ ส่วนหลังมีข่าวออกไปและบอกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นวัดรกร้างนั้น ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้ เป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์เท่านั้น ปัจจุบันไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ข้างบนนานนับ 40 ปีแล้ว
ด.ต.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า หลังมีข่าวแพร่ออกไป นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอปากท่อ เกรงว่าอาจจะมีนักท่องเที่ยวอยากจะเข้ามาเที่ยวชม จึงให้ทางพื้นที่ประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบว่า สามารถเข้ามาเที่ยวชมถ่ายรูปได้บริเวณด้านล่าง แต่ไม่อนุญาตให้ปีนป่ายขึ้นด้านบน เพราะห่วงในเรื่องของความปลอดภัย กลัวนักท่องเที่ยวจะได้รับอันตราย พร้อมให้ทาง อบต.และผู้ใหญ่บ้าน นำเชือกมากั้นบริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางจังหวัดและอำเภอ รวมทั้ง อบต. จะประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันอังคาร 29 พ.ย. นี้ เพื่อจะขอพัฒนาบูรณะสถานที่ดังกล่าวให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาอีกครั้ง
ด้าน นายทวีศักดิ์ กานต์วรัญญู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองกระทุ่ม กล่าวถึงประวัติของสถานที่ว่า สมัยก่อนตอนที่หลวงพ่อคงยังพำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ท่านได้พัฒนาบูรณะสร้างทั้งศาลา หอระฆัง วิหาร ไว้มากมาย รวมถึงการสร้างโรงเรียนบ้านเขาช้าง (คงชวนสมบัติประชานุสรณ์) และยังสร้างโรงทานทำอาหารแจกให้กับนักเรียนที่มาเรียนทุกวันจนท่านมรณภาพ ซึ่งหลวงพ่อคงเป็นที่เคารพรักและเลื่อมใสของคนในพื้นที่หนองกระทุ่มเป็นอย่างมาก หลังหลวงพ่อคงมรณภาพได้มีพระและชาวบ้านสร้างรูปปั้นของท่านเอาไว้ให้ชาวบ้านกราบไหว้ แต่ภายหลังได้มีพระอัญเชิญรูปปั้นของท่านไปอยู่ที่อื่น ซึ่งตนและชาวบ้านก็ได้ตามหากันอยู่ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ หากใครพบรูปปั้นของ หลวงพ่อคง สามารถติดต่อมาที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 เพื่อจะได้นำรูปปั้นของท่านมาประดิษฐานที่เดิม
ต่อมาทาง นายก อบต. และผญบ.หมู่ 8 และทีมงาน อบต. ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปสำรวจข้างบน โดยต้องใช้บันไดปีนขึ้นไป เมื่อขึ้นไปแล้วจะพบบันไดปูนที่สร้างติดกับหน้าผา 3 ชั้น จึงจะพบช่องทางเดินเข้าไปข้างในถ้ำ ซึ่งตลอดทางจะพบที่ตั้งพระพุทธรูปอีก 4 จุด ก่อนจะทะลุไปอีกฝั่งเขา โดยจะพบแยกฝั่งขวา จะพบกุฏิของหลวงพ่อคง ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นทางเดินขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งพระประธาน แต่ ณ ปัจจุบัน พระประธานได้หายไปแล้ว ซึ่งบนยอดเขาและสถานที่ดังกล่าว มีวัตถุสถานมากมาย ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และบนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั่วเมืองปากท่อ
ขณะที่ ชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ทราบข่าวว่าทีมข่าวได้มาสำรวจที่สำนักสงฆ์เขาช้างถ้ำพลอง ได้พากันมาขอร้องให้ทางทีมข่าวช่วยให้สถานที่แห่งนี้ได้บูรณะพัฒนา ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา เพราะชาวบ้านหลายยุคหลายสมัย เคยพยายามขอร้องหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์ได้
ชาวบ้านยังให้ข้อมูลว่า เคยมีคนเข้ามาสำรวจที่นี่แล้วหลายคน ได้รับโชคกันไปตามๆ กัน แต่มีอยู่รายหนึ่งได้พูดว่า หากกลับไปแล้วได้โชคใหญ่ จะมาบูรณปฏิสังขรณ์ที่นี่ และเขาก็ได้รับโชครางวัลใหญ่ แต่ไม่มาทำตามที่พูดทำให้เขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป ซึ่งชุดที่เข้ามาสำรวจที่นี่พร้อมกับกรมศิลปากร ก็เคยถูกหวยทุกครั้งที่เข้าไปสำรวจ.