‘วิษณุ’แจงครม.
ไทม์ไลน์เลือกตั้งเสร็จเดือนก.พ.
กกต.สั่งทุกจังหวัดเร่งแบ่งเขตลต.
“3ป.”พักเบรกประชุม ครม.นั่งคุยห้องรับรองปกติ“บิ๊กตู่”ออกมากวักมือ เรียกรมต.คนอื่น บอกเข้าได้ทุกพรรค ไม่ได้มีความลับ“บิ๊กตู่”อุบเล็งหาพันธมิตรการเมืองหลังเลือกตั้ง ระบุไปก้าวล่วง กกต.ปมไทม์ไลน์เลือกตั้งไม่ได้ “วิษณุ”แจงครม.-นายกฯทราบ “กกต.” ขอ 1 เดือนอย่าเพิ่งยุบสภาแต่หากเลือกตั้งสะดวก-ให้โอกาสพรรคเล็ก ต้องบวกเพิ่ม 15 วัน ยัน“ไม่ตื๊อ ไม่ยื้อ ไม่ถ่วงเวลา”บอกอยากไปเร็วจะตายแจงไทม์ไลน์กกต ออกระเบียบเลือกตั้ง4ฉบับ คาดเสร็จในก.พ. ด้าน กกต.สั่งทุกจังหวัด
เตรียมพร้อมแบ่งเขตสส.เปิด 3รูปแบบ รับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย คาดใช้เวลาไม่เกิน20 วันก่อนชงเคาะ400เขต เดินหน้าเลือกตั้งด้านรทสช.จัดคิว‘บิ๊กตู่’ขึ้นเวที2ที่ เพชรบุรี ‘ธนกร’โวหลังเปิดตัวร่วมรทสช.‘บิ๊กตู่’ยิ่งฮอต ‘แรมโบ้’โชว์พลังซุ่มคัดผู้สมัครเกรดเอเข้า‘รวมไทยสร้างชาติ’เย้ย”อุ๊งอิ๊ง”แลนด์สไลด์ของปลอม อ้างลงพื้นที่ไม่พบกระแสเลย ‘บิ๊กป้อม’เตรียมลงพื้นที่‘นครปฐม-ราชบุรี’พรุ่งนี้ติดตามน้ำ กระชับดึงสส.อยู่กับพปชร.‘ไทยสร้างไทย’ตั้ง‘อนุดิษฐ์’นั่ง ผอ.ปราบโกง ‘สุดารัตน์’ประกาศสงครามปราบคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบให้สิ้นซาก-รื้อสัญญาทาส
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) บรรดารองนายกฯ รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเดินทางเข้ามาประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังต้องจับตาท่าทีทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ต่อการเตรียมรับมืออภิปรายทั่วไปรวมถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งใหญ่ หลัง กฎหมายลูก 2 ฉบับ มีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
‘3ป.’พักเบรกประชุมครม.นั่งถก
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่าระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นระยะตามปกติ เช่นเดียวกับช่วงพักเบรกการประชุม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันในห้องรับรอง
‘บิ๊กตู่’กวักมือเรียก รมต.ทุกพรรค
ทั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกมานอกห้อง พร้อมกับแจ้งรัฐมนตรีคนอื่นๆว่า “ใครจะเข้ามาคุยก็ได้ รัฐมนตรีทุกคนเชิญไปนั่งคุยกันได้ ผมไม่ได้ปิดห้องประชุมลับหรืออะไรกัน สามารถไปนั่งได้ทั้งหมด ไม่ว่าพรรคไหน คุยกันได้”
นายกฯ ไม่ก้าวล่วงกกต.ปมไทม์ไลน์ลต.
เวลา 13.25น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าวันนี้ครม.มีหลายเรื่องสำคัญ ขอให้ติดตามการแถลงข่าวของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีทั้งเรื่องนโยบายของแต่ละกระทรวงที่หลายอย่างมีการอนุมัติกลั่นกรอง เห็นชอบ เรื่องกฎหมายต่างๆผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯมองพันธมิตรทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งไว้แล้วหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบโดยบอกผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงอันเข้มว่าขอคำถามอื่น
เมื่อถามถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รายงานในที่ประชุม ครม.ถึงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ที่นายวิษณุนำมาถ่ายทอดต่อเท่านั้นเอง ซึ่งตนไม่มีสิทธิ์ จะไปก้าวล่วง กกต.ใดๆ ทั้งสิ้น หน้าที่ของรัฐบาลก็หมดแล้ว ในเรื่องของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งก็ออกมาเรียบร้อยแล้ว โปรดเกล้าฯแล้ว หน้าที่ของรัฐบาลก็มีเท่านั้น
ลั่นเวลาที่เหลือจะทำงานให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่าช่วง2เดือนสุดท้ายของรัฐบาลมีสิ่งใดที่เร่งด่วนที่กำชับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการทำงานปกติ ไม่มีว่าจะเหลือเวลาเท่าไหร่ ก็ทำให้ดีที่สุด เหมือนที่ทำมาหลายปีแล้ว เรื่องใดสำคัญ เรื่องใดเร่งด่วนก็ทำไป เพียงแต่ขอให้ระมัดระวังเรื่องการจ่ายงบประมาณ ให้ระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะในช่วงการเลือกตั้งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม รัฐบาลยังคงรักษาการอยู่ ก็ต้องชี้แจงเรื่องงบประมาณให้คุ้มค่า และโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ตนได้กำชับเช่นนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น หากมีการทุจริตก็ต้องไปตรวจสอบผู้รับผิดชอบในการที่จะชี้แจงว่าการใช้จ่ายงบประมาณถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง และลงโทษไปตามกระบวนการยุติธรรม ะเมื่อถามอีกว่าตอนนี้มีรัฐบาลมีไทม์ไลน์ไว้อยู่ในใจแล้ว หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มี ยังไม่มี
‘วิษณุ’เข้าพบนายกฯยันไม่เกี่ยวลต.
เวลา 13.30น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นไปหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องที่ตนได้พบกับนายกฯนั้น เล่าไม่ได้ เป็นเรื่องราชการและไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่รองนายกฯจะคุยกับนายกฯยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
แจงครม.กกต.ขอ1เดือน-อย่ายุบสภา
รองนายกฯกล่าวด้วยว่า สำหรับในเรื่องการเลือกตั้ง ตนได้พูดในที่ประชุมครม. หมดแล้ว โดยตนได้พูดไปเหมือนกับที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่30ม.ค.ซึ่งนายกฯก็รับทราบ เพราะเป็นปัญหาของทุกพรรค เป็นอันว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่สามารถยุบสภาฯได้ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้ง
“ไม่ใช่ว่าตื๊อ ไม่ใช่ว่ายื้อ ไม่ใช่ว่าถ่วงเวลาอะไรทั้งสิ้น แต่หาก กกต.สามารถแบ่งเขตได้เร็วกว่านั้นก็จะเป็นอิสระได้เร็วกว่านั้น ขณะนี้กกต.ขอเวลา ประมาณ1 เดือนหรือ 28กุมภาพันธ์ ส่วนเวลาที่ กกต.ขอ 45 วันนั้น 15 วัน หลังได้ให้เวลาพรรคเล็ก ทำไพรมารีโหวตและจัดตั้งสาขาพรรค” นายวิษณุ กล่าว
แจงไทม์ไลน์ร่างลต.4ฉบับเสร็จก.พ.
นายวิษณุ กล่าวอีกว่าขณะนี้ กกต.ได้จัดทำร่างระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งได้ส่งมาให้ทางครม.พิจารณาแล้ว 2ฉบับ โดยฉบับที่ 1ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ,ฉบับที่ 2 เป็นเรื่องของการทำไพรมารีโหวต,ฉบับที่ 3 การตั้งสาขาพรรคการเมือง และ และฉบับที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็น โดย 3 ฉบับจะจัดทำเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนอีก 1 ฉบับซึ่งเป็นประกาศใหญ่จะเสร็จภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ กกต.จะส่งเรื่องไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด เปิดรับฟังความคิดเห็น คาดว่าต้องใช้เวลาจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์จากนั้นจึงจะเริ่มกระบวนการการเลือกตั้งได้
ให้โอกาสพรรคเล็ก บวกเพิ่ม15วัน
เมื่อถามถึงมีกระแสข่าวว่าจะยุบสภาในวันที่ 15 มีนาคม นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสมมติฐานที่กกต. ใช้เตรียมพร้อมการเลือกตั้งภายใน45วัน แต่อย่างที่พูด หากแบ่งเขตการเลือกตั้งเสร็จแล้ว จะยุบช้า ยุบเร็วก็แล้วแต่ถ้าพูดเอาให้เขาสะดวกและทุกฝ่ายสะดวก ซึ่งรวมถึงพรรคเล็ก ก็ต้องบวกอีก15วันจึงกลายเป็น 45วัน แต่ถ้าไม่เอาสะดวก 30วัน ก็ยุบได้ แต่จะยุ่งหน่อย เขาก็โยนหินถามทางเหมือนกันเพื่อที่จะดูว่าพรรคเล็กว่าอย่างไร ส่วนพรรคใหญ่ ไม่เดือดร้อน เพราะซุ่มทำไพรมารีโหวตไว้อยู่แล้ว แต่พรรคเล็กยังไม่ทำผ่านไพรมารีและยังไม่พร้อม เพราะไม่รู้ว่าเขตอยู่ตรงไหน ดังนั้น พรรคเล็กจึงต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม สมมติว่าหากยุบสภาวันที่3 มี.ค.เขาก็แย่ เพราะวันที่ 5 มี.ค.กกต.จะออกประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครก็จะสมัครไม่ได้และไม่ทัน เพื่อให้เกียรติและโอกาสแก่พรรคเล็ก กกต.จึงช่วยบวกไปอีก15วันถ้าไม่คิดไม่เอื้อไม่เฟื้อกัน เอาเลย ทำเลยก็ได้ แต่30วัน อย่าทำเลยเด็ดขาด ตนจึงบอกว่า ยกเดือนกุมภาพันธ์ ให้เขาไปทั้งเดือน
ยันไม่ยื้อ บอกอยากไปเร็วจะตาย
รองนายกฯยังระบุว่าพรรคเล็ก คือ พรรคที่ยุ่งเกี่ยวกับสูตรการหาร 100หรือ500หรือพรรคที่ปัจจุบันมีส.ส.1-2คน เพราะครั้งที่แล้ว ไม่ได้เข้ามาจากส.ส.เขตเลย คราวนี้ไม่ได้แล้วจึงต้องให้โอกาสเขาหน่อยว่าจะส่งส.ส.เขต หรือส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ จึงต้องให้เวลาเขา15วัน แต่ถ้าไม่นึกถึงหัวอกเขา1มีนาคมก็ยุบสภาฯได้ แต่ถ้าพรรคเกิดใหม่ คือ พรรคใหญ่ทั้งนั้น เพราะในยามอย่างนี้ ยังอุตส่าห์เกิดพรรคอีก ต้องแน่ใจว่า ตัวเองเป็นพรรคใหญ่ สรุปไม่ได้ตื๊อ ไม่ได้ยื้อ อยากให้ไปเร็วจะตาย”
นายกฯขอบคุณครม.ลุยร่วมทำงาน
เวลา14.00 น.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯชี้แจงครม.ถึงกรณีประกาศราชกิจจานุเบกษากฎหมายลูก 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม. นายกฯ ขอบคุณ ครม.ที่ทำงานร่วมกันมาตลอด ซึ่งจากนี้ไปก็คงต้องทำงานอย่างเข็มแข็ง และแข็งขันต่อเนื่องไป โดยหลังจากที่มีการประกาศการเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลก็ยังคงต้องรักษาการอยู่ และ ขอให้ยึดหลักการปฏิบัติตามนโยบายด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้
กกต.สั่งทุกจว.เตรียมแบ่งเขตสส.
ในขณะที่ แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปิดเผยถึงเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า จะต้องดำเนินการทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไปซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนจาก 350 เขตมาเป็น 400 เขต ทันทีที่ร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดรวมถึง กกต.กทม.ต้องนำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เตรียมไว้อย่างน้อย 3 รูปแบบ ปิดประกาศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย คือ พรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด เป็นเวลา 10 วัน นับแต่วันปิดประกาศซึ่งแต่ละรูปแบบจะต้องประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบลหรือเขตพื้นที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง จากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อส.ส.หนึ่งคนในจังหวัดนั้น เหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกต้ัง และแผนที่แสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกต้ัง
คาดกระบวนการจว.ใช้เวลาไม่เกิน20วัน
แหล่งข่าวระบุต่อว่าเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ทางกกต.แต่ละจังหวัดจะต้องนำความคิดเห็นของประชาชนทุกคนและทุกพรรคการเมืองที่เสนอ มาประมวลเพื่อวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียให้เรียบร้อยภายใน 3 วัน จากนั้นจึงนำเสนอสรุปรายงานเสนอเข้าที่ประชุม กกต.ผ่านทางเลขาธิการกกต.เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน เบื้องต้น คาดว่ากระบวนการของจังหวัดจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 20วัน ขั้นตอนหลังจากนั้น ที่ประชุมกกต.ต้องพิจารณาเลือกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่เหมาะสมและตรงตามหลักเกณฑ์มากที่สุด คำนึงถึงพื้นที่ที่ติดต่อใกล้ชิดกัน ความสะดวกการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ข้อสรุปครบถ้วนทุกจังหวัดทั้ง 400 เขตแล้ว ให้ประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ธนกรป้อง‘บิ๊กตู่’ปัดแย่งผลงานจัดการน้ำ
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกมองว่ามีการแย่งผลงานการบริหารจัดการน้ำ และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ว่า นโยบายหลายอย่างที่รัฐบาลทำ การที่พรรคการเมืองหลายพรรค นำไปเป็นนโยบาย คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่เราช่วยกันมาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กำลังจะชี้ให้เห็นก็คือ นโยบายหรือทุกโครงการต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมจะเป็นผู้อนุมัติคนสุดท้าย ฉะนั้น ไม่ใช่ว่าแต่ละโครงการจะผ่านโดยปกติ เพราะนายกฯ ก็มีทีมที่ปรึกษาที่ต้องดูความเหมาะสม และดูประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ดังนั้นจึงไม่เป็นไปตามข่าวที่พาดหัว และไม่ใช่เป็นการแย่งชิงผลงานอะไร วันนี้หลายนโยบายนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ และอนุมัติเป็นคนสุดท้าย
เชื่อนายกฯทำอะไรไป8ปีในใจปชช.รู้ดี
เมื่อถามว่า ประชาชนจะเกิดความสับสนในนโยบายที่พรรคการเมืองหาเสียงหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า สิ่งที่นายกฯ ทำไปประชาชนรู้หมด ใน 8 ปีที่ทำมา วันนี้คงไม่ต้องบอกแล้ว เพราะในใจของประชาชนรู้อยู่แล้ว แม้บางครั้ง อาจจะมีค้างคาอยู่บ้าง และนายกฯ เคยบอกแล้วว่า เราจะทำต่อในสิ่งที่ค้างคาอยู่เพื่อให้สมบูรณ์และมีความยั่งยืน ตนเข้าใจว่าวันนี้ประชาชนเข้าใจอยู่แล้ว จากการที่ตนได้ลงพื้นที่กับนายกฯ ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างมาก ทั้งตัวนายกฯ ตนและทีมงาน ก็ประหลาดใจเช่นกัน ในที่ที่เราไปชาวบ้านออกมา ต้อนรับนายกฯ ทุกบ้าน เช่นจ.นครสวรรค์ และ จ.พิจิตร โดยเฉพาะที่ อ.บางมูลนาก เป็นสิ่งที่เราดีใจ นายกฯ เองก็ดีใจที่ประชาชนออกมาต้อนรับมากขนาดนี้
โวหลังเปิดตัวร่วมรทสช.‘บิ๊กตู่’ยิ่งฮอต
นายธนกร กล่าวว่าหลังจากนายกฯเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรค รทสช.และได้ลงพื้นที่ทำให้กระแสดีขึ้นมาก จึงทำให้เรามี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางพื้นที่ทับซ้อนอยู่หลายจุด แต่เรามีกติกาอยู่แล้วว่าจะเลือกคนที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจสูงสุด ถึงวันนั้น ก็อาจจะต้องทำโพล ซึ่งคนที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก็จะให้เข้ามาช่วยงานได้พรรค วันนี้การลงพื้นที่ของนายกฯได้กำชับทีมงานให้ปฏิบัติตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อย่างเคร่งครัด ส่วนไหนเป็นเรื่องของราชการ ส่วนไหนเป็นเรื่องของการเมือง ให้แยกกันชัดเจน ดังนั้น ไม่ต้องห่วงเพราะให้เป็นไปตามกฎหมาย
หวัง‘เสี่ยแฮ้งค์ สามมิตร’เข้าช่วยรทสช.
เมื่อถามว่า นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)สมาชิกกลุ่มสามมิตร จะย้ายมากับพรรครทสช.หรือไม่ นายธนกร กล่าววว่า ก็เป็นไปได้ ตนอยู่พรรครทสช.จึงอยากให้คนที่ตนเคารพและนับถือ รวมถึงนายอนุชา ซึ่งเปรียบเหมือนพี่ชาย ก็อยากให้มาช่วยงานนายกฯด้วย เพราะสิ่งที่นายกฯทำมาเป็นประโยชน์กับประชาชนหลายด้าน
การที่เราจะมีคนที่ดี และมีอุดมการณ์เดียวกันมาช่วยนายกฯ เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว แล้วตนเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นั้น ในช่วงเวลาไม่นานนี้จะมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านแสดงความจำนงมา ช่วยพรรค รทสช. ถ้าพูดไปแล้วจะหาว่าคุย แต่เป็นข้อเท็จจริง
‘ยุบสภาแน่’แต่อยู่ที่นายกฯตัดสินใจ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่านายกฯจะยุบสภาในวันที่15มีนาคม 2566ถือว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เท่าที่ตนมีข้อมูล คือต้องปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อน และการตัดสินใจยุบสภาฯ เป็นของนายกฯ ซึ่งคิดว่ามีความเป็นไปได้หมด แต่ยุบสภาฯแน่ๆอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงยุบสภาแน่นอน และส.ส.จึงย้ายพรรคได้ตามปกติ
คุยเปิดนโยบายออกมา‘เซอร์ไพรซ์’
เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวว่า การที่ กกต. จะใช้เวลาในการเตรียมการเลือกตั้ง 45วัน เพราะพรรคร ทสช.ยังฟอร์มทีมไม่เสร็จ นายธนกร ยืนยันว่า ไม่จริงเลย ได้บอกตั้งแต่ตนแล้วว่าพรรค รทสช. มีระบบพรรคที่มีความเข้มแข็ง การบริหารกลไกภายในพรรค ทางหัวหน้าพรรคได้วางยุทธศาสตร์ไว้ดีมาก ฉะนั้นมีความพร้อมหมดแล้ว ทั้งนโยบายพรรคและว่าที่ผู้สมัครส.ส. และจะทยอยเปิดนโยบายต่างๆ ออกมาทีละชุด เรามีทีมเศรษฐกิจที่เก่ง เชื่อว่าหากเปิดตัวออกมาพี่น้องประชาชนจะเซอร์ไพรส์
จ่อตั้ง’บิ๊กตู่’นั่งปธ.กำหนดยุทธศาสตร์
นายธนกรกล่าวว่า การคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส.มีกติกา และวางระบบไว้ดีมาก บอกได้เลยว่าผู้สมัครส.ส.ไม่มีเด็กเส้น ที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองแบ่งกันหลายกลุ่ม จะมีปัญหาทุกครั้ง พรรครทสช.ก็มีหลายกลุ่มแต่ทุกอย่างสลายโดยกลไกของพรรค เป็นแนวของนายกฯ ที่ได้วางกรอบไว้แบบนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จะรับตำแหน่งเป็น ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.นายธนกร กล่าวว่าไม่ใช่ เรื่องของซูเปอร์บอร์ด เป็นคณะกรรมการปกติ ที่ทำให้พรรคทำงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่รูปแบบ หรือ ลักษณะแต่งตั้งของทหาร แต่เป็นการบริหารจัดการองค์กรแบบใหม่จะทำให้ไม่มีความขัดแย้งเลยเพราะทุกอย่างมีกติกาที่วางไว้แล้ว ทั้งการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และการวางนโยบาย อย่าลืมว่านายกฯเป็นนักบริหารตั้งแต่กองทัพ จนมาบริหารราชการแผ่นดิน 7-8 ปีแล้วอยู่ในสมองของท่านและเป็นไอเดียที่ดีมาก ทุกคนให้การยอมรับ
รทสช.จัดคิว‘บิ๊กตู่’ลุยเวที2เพชรบุรี
เมื่อถามว่า จะหลังจากที่นายกฯ ขึ้นเวทีปราศรัยที่จ.ชุมพรแล้ว ได้วางแผนที่จะจัดปราศรัยในเวทีต่อไปในพื้นที่อื่นแล้วหรือยัง นายธนกร กล่าวว่า พรรคกำลังคุยกันอยู่ หลังจากนี้นายกฯจะใช้เวลานอกราชการในมิติทางการเมือง จะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พบปะกับพี่น้องประชาชนในหมวกของสมาชิกพรรค รทสช. ฉะนั้นในจุดนี้จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเวทีปราศรัยที่ 2 ของพล.อ.ประยุทธ์ เบื้องต้นทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กำหนดไว้ ที่จังหวัดเพชรบุรี
‘บิ๊กป้อม’ยันบริหารน้ำผลงานรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในช่วงลงพื้นที่จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า การบริหารจัดการน้ำเป็นผลงานการสั่งการของนายกฯ ที่ได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร เป็นผู้กำกับดูแลนั้น ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายกฯ หรือไม่ ว่า “เป็นผลงานของรัฐบาล”
อุบตอบ พปชร.จัดงานระดมทุน
ผู้สื่อข่าวถามถึง การจัดงานระดมทุนพรรค พปชร.เมื่อค่ำวันที่ 30 มกราคม มีผู้สนใจให้การสนับสนุน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร นิ่งเฉยโดยไม่ตอบคำถาม
‘บิ๊กป้อม’ลงเยี่ยม‘นครปฐม-ราชบุรี’
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)โดยวันที่ 1 ก.พ. มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครปฐมและราชบุรี เพื่อติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ ในช่วงเช้า จะไปจ.นครปฐมที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาคกลางเขต 3 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี ติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำท่าจีน จากนั้น จะไปติดตามโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ที่วัดกลางบางแก้ว ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี และสะพานคลองบางแก้ว โดยจุดนี้จะมีพบปะพี่น้องประชาชนด้วย
ช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร คณะจะไปจ.ราชบุรีเพื่อติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองและจ.ราชบุรี ที่สถานีผลิตน้ำโพธารามและพบปะประชาชน ก่อนไปตรวจติดตามโครงการผลิตน้ำประปาที่บริเวณข้างวัดบ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม เป็นจุดสุดท้าย
มุ่งกระชับพื้นที่ดึงสส.อยู่กับพปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ จ.ราชบุรีของพล.อ.ประวิตรครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางไปครั้งที่ 2 ในรอบครึ่งเดือน หลังเพิ่งลาประชุมครม.เพื่อไปยังบ้าน นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรีเพื่อพบปะ ส.ส.ราชบุรีและนักการท้องถิ่นเมื่อวันที่17ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่าการไปครั้งนี้ เป็นการไปตอกย้ำให้ส.ส.ราชบุรีของพปชร.ยังอยู่กับพรรครวมถึงดึงนักการเมืองในบ้านใหญ่ราชบุรีให้มาอยู่กับพปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ทั้งนี้ อ.โพธารามที่พล.อ.ประวิตรจะลงพื้นที่ ปัจจุบันมีนายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็น สส.ในเขตดังกล่าว โดยนายชัยทิพย์เป็น ส.ส.ในกลุ่มบ้านใหญ่ราชบุรีของนายวิวัฒน์ และมีรายงานว่าจะย้ายมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี กับ พปชร.ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม นอกจากการลงพื้นที่ จ.นครปฐม และราชบุรีแล้ว ในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประวิตรยังมีกำหนดการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
คิวลุยยโสฯ-มุกดาหาร/ปทุมฯ-กาญจน์
โดยวันที่ 2 ก.พ.จะลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการแก้มลิงบ่อโจ้โก้พร้อมระบบส่งน้ำ บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และตรวจเยี่ยมโครงการ เติมน้ำ เติมบุญ เติมทุน พัฒนา อาชีพ พร้อมพบปะผู้นำท้องถิ่นและประชาชน จ.มุกดาหาร จากนั้นในวันที่ 8 ก.พ.จะลงพื้นที่ จ.ปทุมธานีและวันที่ 13ก.พ.จะลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
‘สมศักดิ์’ยันไม่เคยลงชื่อขับ4กุมาร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอุตตม สาวนายนและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กลับเข้าพรรค พปชร.อีกครั้งจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่เพราะเคยร่วมลงชื่อขับไล่ออกจากกรรมการบริหารพรรคว่า อย่าใช้คำว่าลงชื่อขับไล่ ตนไม่เคยขับไล่ เท่าที่จำได้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค ความเหมาะสมของสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงขณะนั้นมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่
ยืนยันไม่มีปัญหาทำงานร่วมกันได้
นายสมศักดิ์ ยืนยัน ไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค เป็นไปตามครรลอง ในทางการเมืองเราไม่สามารถไปเลือกงานได้ เมื่อผู้ใหญ่กำหนดทิศทางอย่างไร เราก็ต้องทำตัวให้เหมือนกับน้ำในแก้ว ที่มีน้ำแข็งอยู่ ต้องมีการประสานให้เป็นเนื้อเดียวกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เมื่อถามว่าเมื่อทั้ง 2คนกลับมาจะทำให้พรรคดีขึ้น หรือจะทำให้ความขัดแย้งกลับมาอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า การที่มีบุคลากรมีความรู้เข้ามาเสริมให้แน่นขึ้นคิดว่าจะไม่แย่กว่าเดิม มันต้องดีขึ้น
ย้ำอยู่พปชร.แต่‘สามมิตร’อยู่ไม่ครบ
เมื่อถามว่าจนถึงขณะยังยืนว่ายังอยู่กับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”เมื่อกลุ่มสามมิตรจะอยู่ครบกันทั้งสามคนเลยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผมเข้าใจว่ามันก็เหมือนครอบครัวใหญ่ มีลูกมีหลาน ก็ต้องออกเรือนกัน ถ้าออกเรือนไป ไปเติบใหญ่ ไปเป็นเถ้าแก่ ที่นู่นที่นี่ ที่นั่นได้มันก็ดี ถ้าเราออกเรือนไปแล้ว ไม่สามารถเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้ก็เท่าทุนซึ่งต้องให้โอกาสแต่ละคน คงไม่ได้ไปบังคับว่า ต้องอยู่ตรงนี้ ตรงนั้น เราไม่ใช่นักเลง เราเป็นคนทำงาน ต้องให้โอกาสคน เหมือนกับครอบครัวเมื่อแต่งงาน มีลูกมีหลาน ขยายออกไป ไม่มีอะไร
ลั่นพรรคหน.ป้อมการันตีรัฐบาล99%
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าทั้งสามคนมีโอกาสที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ พยักหน้ายอมรับ เมื่อถามว่าการที่หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ถือเป็นการการันตีการเป็นรัฐบาลครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ย้ำว่า“ผมบอกแล้วไง99%บอกมานานแล้วขณะนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน”
‘แรมโบ้’ซุ่มคัดตัวผู้สมัครรทสช.อีสาน
มีรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่าหลังจากกระแสตอบรับในตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ขึ้นปราศรัยทางการเมืองเวทีแรก ที่ จ.ชุมพร เมื่อสุดสัปดาห์นั้น ปรากฎว่านายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาฯได้ซุ่มทำงานหนักด้วยการคัดเลือกตัว ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานซึ่งเป็นงานใหญ่ที่ได้รับมอบหมาย ที่สำคัญมีบรรดาผู้สมัครเกรดเอ พาเหรดเข้าพรรค รทสช.เป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าคนอีสานมีความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์และชื่นชอบในผลงานของรัฐบาล
“ใครปรามาสว่ารทสช.เป็นพรรคเฉพาะกิจ ตั้งมาโดยคนที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองนั้น บอกเลยว่า ไม่ใช่ เพราะแต่ละคนที่เข้ามารับผิดชอบในแต่ละภาค เป็นคนเชี่ยวชาญการเมืองทั้งสิ้นจึงเชื่อมั่นว่า รทสช.จะได้ สส.ตามเป้าที่วางเอาไว้เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯสมัยที่3”แหล่งข่าว ระบุ
เย้ย”อุ๊งอิ๊ง”แลนด์สไลด์ของปลอม
แหล่งข่าวคนเดิม ยังระบุว่า นายเสกสกลที่เดินสายในภาคอีสาน ได้บอกว่า ไม่พบว่ามีกระแส น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ฉะนั้นการที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่า จะแลนด์สไลด์ น่าจะเป็นแค่ความฝัน หรือการสร้างวาทะกรรม เหมือนที่นายทักษิณ ชินวัตร ฝันว่าได้กลับประเทศมาเลี้ยงหลาน ก็คงเป็นความฝัน พ่อไม่ได้กลับ ลูกไม่ได้เป็นนายกฯ”แหล่งข่าวจากพรรค รทสช.กล่าว
เปิดรายชื่ออดีต9สส.อีสานแห่ซบ
มีรายงานว่า สำหรับอดีต สส.อีสานเกรดเอที่ย้ายเข้าพรรค รทสช.9คน ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 1.นายจำลอง ครุฑขุนทด 2.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ 3.นายประนอม โพธิ์คำ จ.มหาสารคาม 1.นายทองหล่อ พลโคตร 2.นางกุมาวตี ศิโกมุท จ.ขอนแก่น 1.นายธนิก มาศรีพิทักษ์ จ.อำนาจเจริญ 1.นายธีระชัย ศิริขันข์ จ.ศรีษะเกษ 1.นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ จ.กาฬสินธ์ 1.นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง แหล่งข่าวยังระบุว่า ยังมีนักการเมืองระดับท้องถิ่นบ้านใหญ่อีกหลายจังหวัดที่ได้มีการเจรจาลงตัวสมัครในนามพรรค รทสช.อาทิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู นครพนม สกลนคร มหาสารคาม เป็นต้น
‘อนุทิน’ชี้ไม่แปลกชูนายกฯคนที่30
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐประกาศตัวเป็นนายกฯคนที่30 นายอนุทินพร้อมสู้หรือไม่ว่า ทุกคน ก็ต้องรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในบัญชีของพรรคการเมืองก็มีสิทธิ์เป็นนายกฯทุกคน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ซึ่งไม่ใช่ เป็นวาทะการหาเสียง แต่มันคือ ความคาดหวังหรือเป้าหมาย คนที่เป็นหัวหน้าพรรค หรือคนที่มีรายชื่ออยู่ในแคนดิเดตนายกฯก็ต้องช่วยพรรค ในการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีแคนดิเดตพรรคภูมิใจไทยจะประกาศได้เมื่อไหร่นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย มีหัวหน้าคนเดียว ไม่ได้เป็นธรรมนูญพรรคแต่เป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอดตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้มา
พร้อมแจงปมตรวจสอบป้ายของสธ.
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะไปร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้สอบเรื่องป้ายของกระทรวงสาธารณสุข ที่ตั้งไว้หน้าโรงพยาบาลว่าเข้าข่ายการหาเสียง นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องการทำงานปกติ แต่ใครจะไปร้องให้สอบ ก็เป็นสิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว หน่วยงานก็ต้องพร้อมชี้แจง
“ก่อนผู้สื่อข่าว จะถามคำถามนี้ ผู้สื่อข่าวต้องไปอ่านข้อความในป้ายนั้น ก่อนแล้วค่อยมาถามว่า เป็นเรื่องของพรรคหรือเรื่องของการทำงานตามภารกิจของราชการ“
‘สุดารัตน์’ตั้ง‘อนุดิษฐ์’ผอ.สำนักปราบโกง
วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)เป็นตัวแทนพรรคสวมเสื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง(สปก.)ให้น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม.อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารและอดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หลังเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย
โดยได้กล่าวขอแสดงความยินดีที่ทุกคนช่วยกันตั้งศูนย์ปราบคอร์รัปชั่น Corruption Eradication Commission หรือCEOแห่งนี้พร้อมชี้ให้เห็นว่าการคอร์รัปชั่นของประเทศเริ่มจากประชาธิปไตยที่ถูกคลุมด้วยเสื้อเผด็จการ ไทยสร้างไทยจึงสร้างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยซึ่งศูนย์ปราบโกงแห่งนี้ เปิดมาในเวลาที่เหมาะสม เพราะทุกวันนี้ข่าวเกี่ยวกับการโกง การคอร์รัปชั่น ปรากฏให้เห็นทุกวันทั้งทุนจีนสีเทา การรีดไถนักท่องเที่ยว หรือการทุจริตของข้าราชการและนักการเมือง
ประกาศสงครามปราบโกงทุกรูปแบบ
“ไทยสร้างไทยจึงขอประกาศสงครามกับการคอร์รัปชั่น เป็นนโยบายของพรรค โดยเราจะลากคนโกงตัวใหญ่ มารับโทษ มาขึ้นศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการ คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย เช่น ค่าไฟฟ้าที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจนประชาชนต้องใช้ไฟฟ้าแพง ประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มรวมถึงค่าน้ำมัน ค่าก๊าซที่พี่น้องชาวไทยถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด จากนี้จะตรวจจับการทุจริตในกองทัพ โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ สอดคล้องกับสิ่งที่องค์กรความโปร่งใสนานาชาติ ให้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น(Corruption Perception Index : CPI) ประเทศไทยเพียง33คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ทำให้ไทยได้อันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ และเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ไม่เคยตกต่ำขนาดนี้มาก่อน ประเทศไทยสามารถปราบโกงได้ โดยเริ่มต้นด้วยการมีผู้นำที่มีความตั้งใจจริง หรือ Political Will ที่จะมาปราบคอร์รัปชั่น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้นายกฯ ได้ผู้นำที่มีความตั้งใจจริง ที่จะปราบคอร์รัปชั่นพวกเรามั่นใจว่าถ้านำเอายุทธศาสตร์ปราบโกงของไทยสร้างไทยไปใช้และมีการเปลี่ยนกรอบความคิดให้เน้นที่การปราบคอร์รัปชั่นมาก่อนสิ่งอื่นใด ประเทศไทยของเราจะสามารถหลุดพ้นคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก เป็นประเทศที่โปร่งใสไร้คอร์รัปชั่นได้อย่างแน่นอน”คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำ
ผู้การป๊อปลั่นเดินหน้าลุยปราบโกง
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่าขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์หัวหน้าพรรค ทสท.ที่ได้มอบโอกาสดีๆในชีวิตมาตลอดเส้นทางการเมือง ในครั้งนี้ได้มาเป็นสมาชิกพรรค ทสท.ยังได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้เป็น ผอ.สำนักงานปราบโกงต่อจากนี้จะเดินหน้าสานต่ออุดมการณ์ 3 เรื่องคือ รณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดีตั้งแต่เกิดจนแก่,และปราบการคอร์รัปชั่น
“ทั้งหมด คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากผมไม่มี‘ทีมที่ดี-คนที่ใช่-พรรคที่มีอุดมการณ์และเจตจำนงเดียวกันกับผม’ผมโชคดีที่มีเพื่อนรัก มีทั้งผู้มีพระคุณทางการเมือง มีทั้งอดีตผู้แทนหลายท่านที่มีจุดยืนเดียวกันกับผม เพื่อขับเคลื่อนพรรคไทยสร้างไทยอยู่ทั่วประเทศ ให้ไปสู่จุดหมายเดียวกัน นั่นคือได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน มีสวัสดิการที่ดีดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ และ ภารกิจที่ยากที่สุดคือเป็น ผอ.สำนักงานปราบโกง ผมไม่ได้มาเล่นๆ ครับ” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ในฐานะผอ.สปก.ได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดประกอบด้วย 10 เรื่องมาทำต่อได้แก่ค่าไฟฟ้าที่แพงและเกิดจากสัญญาที่อยุติธรรม,เรื่องทุจริตในกองทัพและการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่างๆจนมีคำซุบซิบว่า เรามีกองทัพไว้รับใช้การเมืองหรือไม่ หรือมีกองทัพไว้ผลาญเงินหรือไม่ ตัวเองจะร่วมกับผู้มีอุดมการณ์เดียวกันเป็นทหารฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมกันเดินหน้าทำให้กองทัพเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน เป็นกองทัพที่ใสสะอาด ปราศจากคอรัปชั่น เป็นกองทัพที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง